คำสั่งคำร้องที่ 1221/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสามฎีกา และยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษา ที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองอนุญาตให้ฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นสั่งในคำร้องว่า ไม่มีเหตุสมควรที่จะฎีกาได้ ให้ยกคำร้อง และสั่งในฎีกาว่า ผู้พิพากษาไม่ได้รับรองให้ฎีกาได้ คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ฎีกาของจำเลยทั้งสามเป็นปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นจึงไม่รับฎีกา
จำเลยทั้งสามเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่เกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ในประเด็นที่ว่าโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้โดยมิได้ระบุในช่องคำคู่ความว่า ฟ้องแทนเด็กชายเอกพงษ์ บุตรผู้เยาว์จึงถือได้ว่าเป็นการฟ้องในฐานะส่วนตัว เป็นปัญหาข้อกฎหมายและได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยทั้งสามไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฎว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน จำนวน87,664 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (วันฟ้อง 18 กุมภาพันธ์ 2534) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระแล้วเสร็จแก่โจทก์ คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยกเสีย
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 77,664 บาท แก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสามฎีกา และยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองอนุญาตให้ฎีกา ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องและสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 108,109)
ทนายจำเลยทั้งสาม จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 112)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว แม้ในช่องคำคู่ความจะมิได้ระบุว่า ฟ้องแทนบุตรผู้เยาว์ก็ตามแต่ในคำฟ้องโจทก์ได้บรรยายว่าโจทก์ฟ้องในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ อันเป็นการฟ้องคดีแทนผู้เยาว์แล้ว ฎีกาของจำเลยดังกล่าว แม้จะเป็นข้อกฎหมาย แต่ก็ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับ จึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ

Share