แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลย ในข้อ 2 ที่โต้แย้งว่าหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.1 ปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วน โจทก์นำไปใช้ได้เพียงครั้งเดียว เป็นข้อกฎหมายนั้น เห็นว่าฎีกาที่จำเลยโต้แย้งในข้อนี้เป็นข้อที่จะ นำไปสู่ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยที่ 1 ขายบ้านและที่ดินพิพาทให้แก่ โจทก์แล้วหรือไม่ ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้ว ฎีกาข้อนี้จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา ส่วนฎีกาของ จำเลยข้อ 3 ที่ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่าข้อนี้ไม่มีประเด็น ว่ากล่าวกันในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จึงไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นปัญหา ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองพร้อมบริวาร ออกจากบ้านเลขที่ 120 ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 8026 ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเช่าที่ค้างชำระแก่โจทก์จำนวน 38,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2531 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้โจทก์ครบถ้วน ให้จำเลยทั้งสองร่วมกัน ชำระค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับ แต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองและบริวารจะออก จากบ้านและที่ดินโจทก์
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 115)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้โดยไม่ได้วางค่าฤชาธรรมเนียม และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายใน เวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งศาลฎีกาสั่ง (อันดับ 118,122)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เมื่อจำเลยทั้งสองไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง