แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คู่ความในคดีนี้ได้ยื่นโฉนดที่ดินเลขที่ 82เลขที่ดิน 46 ตำบลลาดหลุมแก้ว อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัด ปทุมธานี เป็นพยานเอกสารต่อศาล ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินดังกล่าวได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ และมีความจำเป็นที่จะต้องนำโฉนดที่ดินดังกล่าวมาโอนและ จดทะเบียนขายให้กับผู้จะซื้อ จึงมีความประสงค์ที่จะขอยืม ต้นฉบับโฉนดที่ดินที่อยู่กับศาลไปจดทะเบียนเฉพาะส่วนของ ผู้ร้องและจะนำมาคืนให้กับศาลภายใน 7 วัน โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องสอดทั้งเก้าและจำเลยทั้งสี่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการโอนที่ดินมรดกโฉนดเลขที่ 82 ตำบลลาดหลุมแก้ว อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 และให้จำเลยแบ่งที่ดินมรดกดังกล่าวให้กับโจทก์ทั้งห้า ฯลฯ
ผู้ร้องสอดที่ 1 ถึงที่ 9 ร้องสอดเป็นทำนองเดียวกันขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินมรดกที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 1กับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 และให้จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกแบ่งมรดกให้แก่ผู้ร้องสอดตามส่วน
ระหว่างการสืบพยานโจทก์ โจทก์ที่ 1 อ้างส่งโฉนดที่ดินเลขที่ 82 ตำบลลาดหลุมแก้ว อำเภอลาดหลุมแก้วจังหวัดปทุมธานี เป็นพยานต่อศาล
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และผู้ร้องสอด
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งห้า และผู้ร้องสอดทั้งเก้าฎีกา (อันดับ 96)
ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 94)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่ดินแปลงพิพาทโฉนดเลขที่ 82 ยังมิได้มีการรังวัดแบ่งแยกโฉนดเป็นสัดส่วนแน่นอน หากจะให้ผู้ร้องรับโฉนดไปจดทะเบียนสิทธินิติกรรมเฉพาะส่วนของผู้ร้องก็จะเป็นปัญหายุ่งยากเกี่ยวกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาในภายหลัง กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาต ให้ยกคำร้อง
