แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ตามคำร้องของจำเลยทั้งสองเป็นกรณีที่จำเลยทั้งสองได้วางเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและดอกเบี้ยในอนาคตอีก 2 ปี ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295(1) จึงอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือศาลชั้นต้นที่จะมีคำสั่งให้ถอนการบังคับคดีได้ ศาลฎีกาสั่งให้ส่งคืนศาลชั้นต้นเพื่อพิจารณาสั่งคำร้องของจำเลยทั้งสองต่อไป
ย่อยาว
ความว่า เนื่องจากจำเลยทั้งสองมิได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 จำนวน 7 รายการ ปรากฏตามสำเนาเอกสารท้ายคำร้อง จำเลยทั้งสองฎีกา ซึ่งคดีมีเหตุที่ศาลฎีกาจะพิพากษาให้ชนะคดี การที่โจทก์ยึดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ทำให้จำเลยเสียหาย ประกอบกับหนี้ตามคำพิพากษาเป็นจำนวนเล็กน้อยทรัพย์สินของจำเลยมีมากกว่าจำนวนหนี้ หากต้องแพ้คดีโจทก์ก็สามารถได้รับชำระหนี้จนเต็มจำนวน จำเลยเคยยื่นคำร้องให้ยกเลิกหมายบังคับคดีมาแล้วครั้งหนึ่งโดยจำเลยที่ 2 ได้นำเงินสดจำนวน 88,311.63 บาท มาวางไว้เป็นประกัน ปรากฏตามสำเนาเอกสารใบเสร็จรับเงินของกรมบังคับคดีแนบท้ายคำร้อง โปรดมีคำสั่งยกเลิกหมายบังคับคดีของศาลชั้นต้นและมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการยึดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ตามที่โจทก์นำยึดจำนวน 7 รายการด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 65,500 บาท และดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีคิดตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2530 จนถึงวันชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยทั้งสองฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 82, 81)
จำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำร้องของโจทก์ (อันดับ 65)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามคำร้องเป็นกรณีที่จำเลยทั้งสองได้วางเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและดอกเบี้ยในอนาคตอีก 2 ปี ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295(1) จึงอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือศาลชั้นต้นที่จะมีคำสั่งให้ถอนการบังคับคดีได้ ให้ส่งคืนศาลชั้นต้นเพื่อพิจารณาสั่งคำร้องของจำเลยทั้งสองนี้ต่อไป