แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ฉบับลงวันที่ 31 มกราคม 2532ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยมิได้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจึงไม่มีอำนาจที่จะอุทธรณ์คำสั่ง ไม่รับอุทธรณ์ จำเลยจึงอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว ฉบับลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2532ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว เป็นกรณีที่จะต้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลฎีกา หาใช่อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ตามที่จำเลยอุทธรณ์ขึ้นมาไม่ จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจำเลยเห็นว่า การที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับนั้น จำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวไปยังศาลอุทธรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยโดยอ้างว่าต้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลฎีกาจึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว ขอศาลฎีกาได้โปรดกลับคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของจำเลยฉบับลงวันที่ 16กุมภาพันธ์ 2532 และหากศาลฎีกาเห็นสมควรก็ได้โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยฉบับลงวันที่ 31 มกราคม 2532 แล้วดำเนินการต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีสองสำนวนนี้ จำเลยเป็นบุคคลเดียวกัน ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยเรียกนายสุพจน์จุนเจิม โจทก์สำนวนแรกว่าโจทก์ที่ 1 และเรียกพนักงานอัยการ กรมอัยการ โจทก์สำนวนหลังว่าโจทก์ที่ 2
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 20 ปี
จำเลยอุทธรณ์ (อันดับ 72)
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง (สำนวนธุรการ อันดับ 46)
วันที่ 31 มกราคม 2532 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอ้างว่า จำเลยมิได้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว จึงไม่มีอำนาจที่จะอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 76)
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2532 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ฉบับลงวันที่ 31 มกราคม 2532ของจำเลย ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยดังกล่าว (อันดับ 77 แผ่นที่ 2,79)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 81 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของจำเลย (ที่ถูกต้องทำเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง) เป็นกรณีจำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นจะต้องส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 ทวิ(2) คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งรับหรือไม่รับอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว เป็นการทำแทนศาลฎีกา จึงต้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา ที่ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงชอบแล้วตามคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ จำเลยเป็นผู้ยื่นคำร้องเมื่อศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์จำเลยก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 ทวิ (2) ให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วไม่สมควรอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง