คำสั่งคำร้องที่ 1178/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้น สั่งว่าคดีนี้ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่รับ จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาที่ว่า สัญญากู้ยืมเงิน มีข้อความว่า จำเลยทั้งสองกู้ยืมเงินโจทก์จำนวน 186,000 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี โจทก์นำสืบพยานบุคคลเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อความในหนังสือสัญญากู้ยืมเงินว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ จำนวน 150,000 บาท ศาลรับฟังพยานดังกล่าวไม่ชอบตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 นั้น เป็นปัญหา ข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน150,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 10 มีนาคม 2535)เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 111) จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 114)

คำสั่ง จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ศาลจะฟังคำพยานบุคคลว่าเงินกู้ จำนวน 186,000 บาท แยกเป็นดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน รวมอยู่เป็นการไม่ชอบด้วยการรับฟังพยานหลักฐานและฎีกาต่อไปว่า จากคำร้องและคำเบิกความของโจทก์ที่ว่า มีเงินดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนอยู่ในต้นเงินนั้น เป็นการรับฟัง พยานหลักฐานที่ขัดกับเอกสารและเหตุผลในการคำนวณดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 2 ต่อปี นั้น ฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นฎีกา โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share