แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย เพราะเห็นว่าเป็น อุทธรณ์ที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 วรรคสอง และ 225 วรรคแรก จำเลยฎีกาคัดค้าน ว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ชอบ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย จำเลย ฎีกาได้
ย่อยาว
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าคดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่บุคคลออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ข้อที่จำเลยฎีกาเป็นการฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่วินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของจำเลยต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องการตีความคำฟ้องอุทธรณ์ ไม่ใช่เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับ ฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ รับฎีกา (อันดับ 70)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สิน ออกจากตึกแถวเลขที่ 59/12 ซอยเลิศบุญ แขวงบางพลัด เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และส่งมอบคืนโจทก์ในสภาพเรียบร้อย ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 2,000 บาท นับแต่ เดือนธันวาคม 2537 จนกว่าจำเลยและบริวารจะออกจากที่พิพาท และส่งมอบให้โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 66)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 67)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย เพราะเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 วรรคสอง และ 225 วรรคแรก จำเลยฎีกาคัดค้านว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ชอบ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย จำเลยฎีกาได้ ให้รับฎีกาจำเลย ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป