แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2530 เพื่อขออนุญาตยื่นฎีกาศาลชั้นต้นสั่งว่า กรณีตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะอนุญาตตามกฎหมาย ยกคำร้อง
จำเลยเห็นว่า จำเลยไม่มีเจตนาจะไม่ยื่นฎีกาต่อสู้คดีนี้แต่อย่างใด แต่เนื่องจากคดีนี้เดิมนายบุญรอด อ่อนดีกุล เป็นทนายจำเลยและในระหว่างอุทธรณ์นายบุญรอด อ่อนดีกุล ถูกต้องโทษจำคุกนายบุญรอด อ่อนดีกุล จึงได้ฝากการยื่นอุทธรณ์ไว้กับนายมนตรีคงสุพรรณซึ่งเป็นทนายผึกหัดในสำนักงานทำการยื่นอุทธรณ์แทนจนกระทั่งศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาศาลชั้นต้นได้มีหมายนัดไปยังนายมนตรี คงสุพรรณ เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ปรากฏว่านายมนตรี คงสุพรรณ หาได้แจ้งวันนัดและผลของคำพิพากษาให้จำเลยทราบไม่ จำเลยเพิ่งมาทราบผลคดีเมื่อได้รับคำบังคับ นอกจากนี้จำเลยยังได้ต่อสู้คดีไว้ในคดีหมายเลขดำที่ 25/2529 ของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี โดยอ้างข้อเท็จจริงในคดีนี้และคดีดังกล่าวรอฟังผลคดีนี้อยู่ จึงไม่มีเหตุอันใดที่จำเลยจะไม่ยื่นฎีกา ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ขอศาลฎีกาได้โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 110)
จำเลยชำระค่าคำร้อง 200 บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าแชร์จำนวน 108,000 บาทให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 27 พฤษภาคม 2530 โจทก์จำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงสั่งให้งดอ่านและถือว่าคู่ความได้ฟังคำพิพากษาโดยชอบแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเพื่ออนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกาได้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าว (อันดับ 105)
ทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 107)
คำสั่ง
จำเลยยังไม่ได้ยื่นฎีกา เพียงแต่ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขออนุญาตยื่นฎีกาเท่านั้น เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาต จำเลยจะยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกาขอให้รับฎีกาหาได้ไม่กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234ประกอบด้วยมาตรา 247 ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับส่วนที่เสียเกินมา 160 บาทให้คืนแก่จำเลย
