คำสั่งคำร้องที่ 1150/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา ส่วนที่เป็นข้อกฎหมายเรื่องฟ้องเคลือบคลุม เรื่องการงดสืบพยานนั้นเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรให้รับการวินิจฉัย จึงไม่รับฎีกาจำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาเป็นสาระสำคัญทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่ควรวินิจฉัยในชั้นฎีกา เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 59)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยและบริวารรื้อถอนขนย้ายสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินออกไปจากที่ดินราชพัสดุของโจทก์ หากไม่กระทำตามกำหนดให้โจทก์เข้ากระทำการได้โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่าย ให้ใช้ค่าเสียหาย 3,541.20 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เงินเสร็จให้ใช้ค่าเสียหายเดือนละ 234 บาทแก่โจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินโจทก์
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 53)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 55)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยคงมีปัญหาข้อกฎหมายเฉพาะในประเด็นที่ว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่เท่านั้น นอกนั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งปัญหาเรื่องฟ้องเคลือบคลุมนี้ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยไว้แล้วว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม จำเลยมิได้อุทธรณ์ในปัญหานี้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษาไม่ชอบอย่างไร ปัญหาเรื่องฟ้องเคลือบคลุมจึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยจึงไม่อาจจะยกขึ้นมาเป็นข้อฎีกาได้ ด้วยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคแรก ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาจำเลยศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share