คำสั่งคำร้องที่ 1142/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 3 ฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 131)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันรับผิดชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 420,886.47 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงินค้างชำระตามเช็คแต่ละฉบับคือต้นเงิน 62,500 บาท นับแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2526 ต้นเงิน49,800 บาท นับแต่วันที่ 4 กันยายน 2526 ต้นเงิน 75,000 บาทนับแต่วันที่ 15 กันยายน 2526 ต้นเงิน 17,200 บาท นับแต่วันที่12 กันยายน 2526 ต้นเงิน 36,000 บาท นับแต่วันที่ 30 กันยายน 2526ต้นเงิน 85,000 บาท นับแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2526 ต้นเงิน 21,510 บาทนับแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2526 ต้นเงิน 48,839.04 บาท นับแต่วันที่15 กุมภาพันธ์ 2527 และต้นเงิน 64,937.43 บาท นับแต่วันที่3 มีนาคม 2527 จนถึงวันฟ้อง และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปีจากต้นเงิน 420,886.47 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องรวมกันแล้วต้องไม่เกิน62,109.51 บาท โดยในจำนวนเงิน 420,886.47 บาท ให้จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 รับผิดร่วมกันจำเลยที่ 1 จำนวน 49,800 บาทและดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 9 กันยายน2526 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินแก่โจทก์เสร็จแต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 8,213.58 บาท ในต้นเงิน 420,886.47 บาท ฯลฯ
จำเลยที่ 3 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 125,124)
จำเลยที่ 3 ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์โดยจำเลยที่ 3 หาหลักทรัพย์มาวางเป็นประกันและได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 105,111)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว หากจำเลยที่ 3 หาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยเป็นเวลา6 ปี มาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกามิฉะนั้นให้ยกคำร้อง

Share