คำสั่งคำร้องที่ 1129/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาจำเลยข้อ 2(ข) เป็นการโต้แย้งดุลยพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ ภาค 2 เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้มีทุนทรัพย์ชั้นฎีกา ไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว ส่วนฎีกาข้อ 2(ก) เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบ ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับ การวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ที่แก้ไขแล้ว จึงไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยข้อ 2(ข) เป็นปัญหา ข้อกฎหมาย และฎีกาข้อ 2(ก) ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบ เรียบร้อยของประชาชนและเป็นสาระแก่คดีอันควรได้ รับการวินิจฉัย ด้วย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลย ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 190,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน ดังกล่าว นับแต่วันฟ้อง (4 ตุลาคม 2531) จนกว่าจะชำระเสร็จ แก่โจทก์
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 72)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 75)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 190,000 บาท ให้แก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษายืน จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ฎีกาข้อ 2(ข.) ของจำเลย เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตาม บทกฎหมายดังกล่าว ส่วนฎีกาข้อ 2(ก) เป็นปัญหาที่มิได้ยกขึ้น ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 ทั้งเป็นปัญหา ข้อกฎหมายอันไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย จึง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยจึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share