แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า โจทก์อุทธรณ์เรื่องที่ไม่ได้ฟ้องมา จึงเป็นเรื่องที่มิได้ว่ากล่าวกันมาก่อนต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 31ไม่รับอุทธรณ์โจทก์
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์โจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824 กำหนดไว้ว่าเมื่อตัวแทนกระทำการแทนตัวการที่มีภูมิลำเนาในต่างประเทศตัวแทนยังต้องรับผิดแทนตัวการด้วย และข้อกำหนดในสัญญาว่าจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยข้อ 18 จะเป็นข้อกำหนดที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือไม่ เมื่อโจทก์ได้ว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้น อุทธรณ์ของโจทก์จึงควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งให้ศาลแรงงานกลางรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาและพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 58)
คดีสามสำนวนนี้ ศาลแรงงานกลางสั่งพิจารณาพิพากษารวมกันโจทก์ทั้งสามสำนวนฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์สำนวนแรก 130,000 บาท โจทก์สำนวนที่สอง 190,000 บาท โจทก์สำนวนที่สาม 130,000 บาท กับค่าทำงานวันหยุดพักผ่อนอีก 1,600 บาท
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ทั้งสามสำนวนอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 55)
โจทก์ทั้งสามสำนวนจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 56)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว โจทก์ทั้งสามกล่าวอ้างในคำฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ว่าจ้างโจทก์ทั้งสาม โดยมิได้มีข้ออ้างว่าจำเลยเป็นตัวแทนของตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศ ดังนั้น ที่โจทก์ทั้งสามอุทธรณ์ว่าจำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสามแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศจึงเป็นเรื่องนอกเหนือไปจากคำฟ้องที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามนั้น จึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง