คำสั่งคำร้องที่ 1115/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ยื่นฎีกาไว้ บัดนี้โจทก์และจำเลยมีทางตกลงกันได้โดยจำเลยจะชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์ไม่ประสงค์จะฎีกาต่อไปจึงมิได้นำส่งสำเนาฎีกาเพื่อที่จะให้ศาลสั่งทิ้งฎีกา โปรดมีคำสั่งทิ้งฎีกาด้วย
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ไม่ได้ชำระค่าคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี, และตามสัญญากู้เงินรวม 618,494.96 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปีจากต้นเงิน 557,410.48บาท นับแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จให้โจทก์หากไม่ชำระให้เอาทรัพย์สินที่จำนองออกขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสามออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ให้โจทก์จนครบ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้จำนวน 610,393.61 บาทให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ17.5 ต่อปีจากต้นเงิน 544,725.69 บาท นับแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา (อันดับ 107)
ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาฎีกาโดยวิธีปิดหมาย(อันดับ 113)
โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าวโดยทนายโจทก์ซึ่งมีอำนาจถอนฟ้องลงชื่อในคำร้อง (อันดับ 112,108)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาฎีกาแก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ภายใน 15 วัน และได้แจ้งคำสั่งให้โจทก์ทราบโดยชอบแล้ว แต่โจทก์ไม่นำส่งสำเนาฎีกาภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดถือได้ว่าโจทก์ได้ทิ้งฟ้องฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 ประกอบด้วยมาตรา 246,247 ฉะนั้น จึงให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ

Share