คำสั่งคำร้องที่ 1099/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ยื่นคำร้องฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ถือว่าถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 โจทก์จะยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลฎีการับอุทธรณ์ของโจทก์เช่นนี้หรืออุทธรณ์ต่อศาลฎีกาย่อมไม่ได้ ไม่รับคำร้อง
โจทก์เห็นว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์จะเป็นที่สุดต้องเป็นคำสั่งในเนื้อหาของอุทธรณ์แต่คดีนี้ศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำสั่งเกี่ยวกับเนื้อหาในอุทธรณ์ของโจทก์แต่ประการใด คำสั่งศาลอุทธรณ์จึงยังไม่ถึงที่สุด ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องของโจทก์ดังกล่าวเป็นการไม่ชอบ โปรดมีคำสั่งให้รับคำร้องฎีกาคำสั่งของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
จำเลยทั้งสองเด็ดขาด และพิพากษาให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลาย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์อ้างว่าคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลยังพิมพ์ไม่เสร็จ เกรงว่าไม่สามารถทำอุทธรณ์ยื่นต่อศาลได้ทันภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ 7 วันนับแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2532 โจทก์ยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 8 มกราคม2533 ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ยื่นอุทธรณ์พ้นกำหนดเวลาอุทธรณ์แล้วจึงไม่รับ
โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์อ้างว่าโจทก์ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ ขยายระยะเวลาไว้
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งว่า ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นการชอบ ให้ยกคำร้อง
โจทก์ยื่นคำร้องฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำร้องดังกล่าว (อันดับ 110)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 113)

คำสั่ง
คำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share