คำสั่งคำร้องที่ 1095/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีต้องห้าม ฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 การฎีกาในเรื่องดุลพินิจของศาลเป็นฎีกาใน ข้อเท็จจริง ต้องห้ามจึงมีคำสั่งไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าคำร้องของ จำเลยทั้งสองมีเหตุผลที่ศาลจะมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(2)โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาที่ของ งด การบังคับคดีของจำเลยทั้งสอง ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1ที่ 2 รื้อห้องแถวเลขที่ 1312 ออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 1631อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ของโจทก์พร้อมส่งมอบที่ดินดังกล่าวในสภาพเรียบร้อย และให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ฯลฯ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องคำร้องขอให้งดการบังคับคดี ศาลชั้นต้นสั่งว่าคดีนี้ ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้จำเลยทุเลา การบังคับคดีประกอบกับกรณีตามคำร้องไม่มีเหตุอันสมควร และอยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292 จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับลงวันที่7 เมษายน 2536(สำนวนตอน 2 อันดับ 19)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นสั่งว่าศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาวันที่ 7 เมษายน 2536 ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสอง ทราบคำสั่งในวันใด ให้ส่งคำร้องพร้อมสำนวนไปศาลฎีกา เพื่อพิจารณาสั่ง (สำนวนตอน 2 อันดับ 25)

คำสั่ง
จำเลยทั้งสองฎีกาโต้แย้งการใช้ดุลพินิจของศาลที่สมควรงดการบังคับคดีหรือไม่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share