แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า หลังจากที่โจทก์ทั้งสามฟ้องคดีนี้แล้ว จำเลยที่ 2 กับโจทก์ทั้งสามได้เกิดความขัดแย้งกันเป็นอย่างมาก ขณะนี้ มีกลุ่มบุคคลติดตามปอง ร้ายจำเลยที่ 2 ตลอดมา จำเลยที่ 2 อาจได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ อีกทั้งพยานก็เกิดความกลัว จนไม่กล้าที่จะมาเป็นพยานศาล จำเลยที่ 2 ต้องอยู่อย่างลำบาก ระมัดระวังตัวเป็นอย่างมากถึงขนาดจำเลยที่ 2 ไม่สามารถประกอบ ธุรกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ได้จนต้องย้ายครอบครัวมาอยู่ ที่กรุงเทพมหานครจนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากนี้จำเลยที่ 2 ยังได้เกิดขัดแย้งกับท่านผู้พิพากษาในคดีนี้ด้วย ขอได้โปรด อนุญาตให้โอนคดีนี้ไปพิจารณาที่ศาลแขวงพระนครเหนือหรือ ที่ศาลอาญาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสามยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ ทั้งสามฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,726,328,332 พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2485 มาตรา 4,48 กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันทำลายหนังสือพิมพ์ “ประชารัฐ” ฉบับที่ 239 ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2534 ให้ จำเลยทั้งสองร่วมกันโฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดในหนังสือพิมพ์ ท้องถิ่นจำนวน 3 ฉบับ และหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง จำนวน 1 ฉบับเป็นเวลา 15 วันติดต่อกันโดยให้จำเลยทั้งสองเป็นผู้ชำระ ค่าโฆษณา
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล จึงให้ ประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
คดีอยู่ระหว่างนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 63)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว กรณียังไม่พอฟังว่าอาจมีการขัดขวางต่อการพิจารณาหรือน่ากลัวว่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้าย อย่างอื่นขึ้น จึงไม่อนุญาตให้โอนคดี
