แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้มีราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกิน200,000 บาท และฎีกาของผู้ร้องเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้าม ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของผู้ร้อง คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา ให้ผู้ร้องทั้งหมด ผู้ร้องเห็นว่า ผู้ร้องฎีกาเกี่ยวกับประเด็นการครอบครองที่ดินพิพาทของผู้ร้องไม่ใช่การครอบครองที่ดินแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 และผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ครบองค์ประกอบตามมาตรา 1382 แล้ว อีกทั้งการรับโอนที่ดินของผู้คัดค้านเป็นการรับโอนโดย ไม่สุจริต ตามมาตรา 1299 อันเป็นสาระสำคัญในคดี ซึ่งผู้ร้อง เห็นว่า เป็นฎีกาทั้งในปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง สมควร ได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของ ผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้คัดค้านได้รับสำเนา คำร้องแล้วหรือไม่ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องได้ครอบครองปรปักษ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 8816 ตำบลท่าช้าง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางด้านทิศตะวันตกบางส่วน เป็นเนื้อที่ 1 งาน 7 ตารางวา เดิมที่ดินโฉนดดังกล่าวมีนางทองสุข บุญประถัมภ์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ต่อมานางทองสุขได้โอนขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่นายอุดมพัฒน์วิชัยโชติ ผู้คัดค้านซึ่งรับโอนโดยไม่สุจริตขอให้ศาลมีคำสั่งว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 8816ตำบลท่าช้าง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางด้านทิศตะวันตกบางส่วนเนื้อที่ 1 งาน 7 ตารางวา ตามแนวเส้นสีแดงในแผนที่สังเขปท้ายคำร้องอันดับ 1 ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครองปรปักษ์ นายอุดมพัฒน์วิชัยโชติ ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้ร้อง ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้ร้องมิได้ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นจำนวนเนื้อที่ 1 งาน 7 ตารางวาแต่ผู้ร้องได้อาศัยนางทองสุข บุญประถัมภ์ เป็นเนื้อที่เพียง12 ตารางวา และผู้คัดค้านซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวจากนางทองสุข บุญประถัมภ์ โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนขอให้ยกคำร้อง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 92) ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 93)
คำสั่ง คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ร้องครอบครอง ที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของนางทองสุขเจ้าของที่ดินเดิมไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ ที่ผู้ร้องฎีกาว่าครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของไม่ได้อาศัยสิทธิของนางทองสุข นั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อคดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาเพียง 80,000 บาท ไม่เกิน 200,000 บาทจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคหนึ่ง และปัญหาตามฎีกาของผู้ร้องที่ว่าผู้คัดค้านรับโอนที่ดินมาโดยไม่สุจริต ไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 นั้น จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแห่งคดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่งศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของผู้ร้องชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง