แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 จึงมีคำสั่งไม่รับ
โจทก์เห็นว่า การที่จำเลยลงชื่อเป็นพยานและรับรองว่านางคำแดงฯ มีสติสัมปชัญญะดีในพินัยกรรมเอกสาร จ.1 แต่เวลาเบิกความที่ศาลกลับเบิกความว่า นางคำแดงฯ นอนหลับตา สติไม่ดี คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นเท็จ การที่ศาลไปวินิจฉัยว่าจำเลยเบิกความไปตามความจริงนั้น ไม่ชอบด้วยเหตุผล โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 87)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 88)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง