คำสั่งคำร้องที่ 1052/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองแสนบาท ฎีกาข้อ 2.1 ถึง 2.3เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 258 (ที่ถูก มาตรา 248) ส่วนข้อ 2.4 แม้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวโดยชอบ ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 ทั้งไม่ควรได้รับการวินิจฉัย จากศาลฎีกาด้วย จึงไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นปัญหา ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 63 แผ่นที่ 5) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 37,476 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงิน 36,400 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 63 แผ่นที่ 1) จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 63 แผ่นที่ 5)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ฎีกาจำเลยทั้งสองข้อ 2.1,2.2 และ 2.3 มีใจความทำนองเดียวกันว่าจำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิด ตามเช็คเพราะโจทก์ผู้ทรงได้นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคาร เมื่อพ้นเวลา 6 เดือน นับแต่วันออกเช็ค และฎีกาข้อ 2.4 ว่าจำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดตามเช็คเพราะโจทก์ไม่ฟ้องเรียกเงิน ตามเช็คจากธนาคารเสียก่อนนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายแต่ปัญหา ข้อกฎหมายดังกล่าวไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยทั้งสองมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้น จึงไม่มี สิทธิอุทธรณ์และฎีกา ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง ชอบแล้วให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share