คำวินิจฉัยที่ 89/2562

แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

คดีนี้ โจทก์เป็นเอกชนยื่นฟ้อง การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ ๑ กรมธนารักษ์ ที่ ๒ ซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครอง อ้างว่า บิดาโจทก์เป็นผู้มีสิทธิตามแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) ต่อมา ได้มีพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในเขตท้องที่ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา และตำบลบางละมุง จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ๒๕๒๑ ซึ่งจัดทำแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา ฯ ผิดพลาด ทำให้บิดาโจทก์ไม่ได้รับเงินค่าทดแทน ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้บิดาโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่ดิน และมีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทน โดยให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าทดแทนที่ดินพิพาท เห็นว่า เมื่อคดีนี้ จำเลยที่ ๑ มีความจำเป็นต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์เวนคืนที่ดินเพื่อการจัดสร้างท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เพื่อประโยชน์ของรัฐในการอำนวยความสะดวกแก่การขนส่งโดยสาร และสินค้าเข้าและออก อันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และกิจการอื่นซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการท่าเรือ โดยขุดลอกร่องน้ำสร้างเขื่อนกันคลื่น และเขื่อนเทียบเรือ พร้อมทั้งโรงพักสินค้า คลังสินค้า ถนน ทางรถไฟ อาคาร ที่ทำการ และอาคารอื่นที่เกี่ยวกับกิจการอันเป็นส่วนประกอบของกิจการท่าเรือ จึงได้ดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ อำเภอศรีราชา และอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ๒๕๑๖ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน เพื่อประโยชน์ในการเวนคืนตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ การที่โจทก์อ้างว่าบิดาโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) ในแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว และการที่จำเลยทั้งสองไม่กำหนดและไม่จ่ายเงินค่าทดแทนที่ดินที่ถูกเวนคืนให้แก่โจทก์เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลพิพากษาให้บิดาโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) และมีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทน จึงเป็นการโต้แย้งการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ซึ่งเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒

Share