แหล่งที่มา : หนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้โจทก์กับจำเลยจะเคยอยู่กินกันฉันสามีภริยาและมีบุตรด้วยกัน 1 คน แต่โจทก์กับจำเลยมิได้จดทะเบียนสมรสกัน การที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินซึ่งนำมาลงทุนและทำมาหาได้ร่วมกันในระหว่างอยู่กินฉันสามีภริยา จึงเป็นการขอแบ่งโดยใช้หลักกรรมสิทธิ์รวม ตาม ป.พ.พ. บรรพ 4 ลักษณะ 2 มิได้อยู่ภายใต้บังคับแห่ง ป.พ.พ. บรรพ 5 คดีนี้จึงไม่เป็นคดีครอบครัวตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 10 (3)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยแต่งงานกันตามประเพณีแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรผู้เยาว์ด้วยกัน 1 คน ระหว่างที่อยู่กินฉันสามีภริยากันโจทก์กับจำเลยนำที่ดินมือเปล่าเนื้อที่คนละ 1 งาน รวมราคา 200,000 บาท มาถมและสร้างตึกแถวชั้นเดียวจำนวน 3 คูหา เลขที่ 47 หมู่ที่ 6 ตำบลศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ใช้เงินค่าก่อสร้าง 500,000 บาท และร่วมกันเปิดร้านขายสินค้าทั่วไป ชื่อ “ร้านบ้านดีมีมานะ” ใช้เงินลงทุน 200,000 บาท รวมเป็นเงินที่โจทก์กับจำเลยใช้ในการลงทุนร่วมกันจำนวน 900,000 บาท ต่อมาโจทก์กับจำเลยมีสาเหตุขัดแย้งและแยกทางกัน ขอให้พิพากษาบังคับจำเลยแบ่งที่ดินพร้อมบ้านและเงินลงทุนซื้อสินค้ามาจำหน่ายในร้านซึ่งโจทก์เป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วยให้จำเลยกึ่งหนึ่งรวมเป็นจำนวนเงิน 450,000 บาท
จำเลยให้การว่า ตึกแถวพิพาทและร้านบ้านดีมีมานะเป็นของบิดามารดาจำเลย โจทก์มีส่วนเพียงนำที่ดินเนื้อที่ 1 งาน ของโจทก์ที่อยู่ติดกับที่ดินของบิดามารดาจำเลยเนื้อที่ 2 งาน มารวมกับที่ดินของบิดามารดาจำเลย และร้องขอให้บิดามารดาจำเลยก่อสร้างตึกแถวพิพาทลงบนที่ดินของโจทก์โดยบอกว่าจะยกที่ดินและตึกพิพาทให้บุตรของโจทก์และจำเลย บิดามารดาจำเลยจึงสร้างตึกแถวพิพาทอยู่บนที่ดินทั้งของโจทก์และบิดามารดาจำเลยฝ่ายละ 1 งาน บิดามารดาจำเลยเป็นคนออกเงินก่อสร้างตึกแถวพิพาท โดยกู้ยืมเงินจากการประปาส่วนภูมิภาคกระทรวงมหาดไทยแล้วระบุชื่อของมารดาจำเลยเป็นเจ้าบ้านในตึกแถวพิพาท ส่วนเงินที่ใช้ซื้อสินค้าในร้านบ้านดีมีมานะ ก็เป็นเงินที่บิดาโจทก์กู้ยืมจากบริษัทเอส.เอ็น.เอ็น.ลิสซิ่ง จำกัด จำนวน 150,000 บาท ต่อมาโจทก์มีหญิงอื่นและยินยอมออกจากตึกแถวเลขที่ 47 ไปพร้อมเงินที่ได้จากการขายสินค้าซึ่งเป็นของบิดามารดาจำเลย และโจทก์ยังให้จำเลยเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตรเพียงลำพัง โจทก์จึงมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งเป็นราคาที่ดินในส่วนของโจทก์ตามราคาซื้อขายในปัจจุบันเพียง 30,000 บาท เท่านั้น
ในวันนัดฟังคำพิพากษา ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุโขทัย เห็นว่า กรณีมีปัญหาว่าคดีนี้จะเป็นคดีครอบครัวหรือไม่ จึงส่งสำนวนให้ประธานศาลฎีกาวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 11
วินิจฉัยว่า คดีนี้แม้โจทก์กับจำเลยจะเคยอยู่กินกันฉันสามีภริยาและมีบุตรด้วยกัน 1 คน แต่โจทก์กับจำเลยมิได้จดทะเบียนสมรสกัน การที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินซึ่งนำมาลงทุนและทำมาหาได้ร่วมกันในระหว่างอยู่กินฉันสามีภริยา จึงเป็นการขอแบ่งโดยใช้หลักกรรมสิทธิ์รวม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 ลักษณะ 2 มิได้อยู่ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 คดีนี้จึงไม่เป็นคดีครอบครัวตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 10 (3)
วินิจฉัยว่า คดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลเยาวชนและครอบครัว
วินิจฉัย ณ วันที่ 27 เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2557
ดิเรก อิงคนินันท์
(นายดิเรก อิงคนินันท์)
ประธานศาลฎีกา
อโนชา ชีวิตโสภณ – ย่อ/ตรวจ