คำวินิจฉัยที่ 72/2563

แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

คดีนี้ ผู้ฟ้องคดีทั้งสองเป็นเอกชน ยื่นฟ้องบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ บริษัทกสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่ ๒ การไฟฟ้านครหลวง ที่ ๓ ผู้ถูกฟ้องคดี อ้างว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามละเลยต่อหน้าที่ไม่ตรวจสอบ บำรุงรักษาการติดตั้งและดูแลรักษาสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีที่ ๑ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง พร้อมด้วยผู้ฟ้องคดีที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้โดยสารถูกสายสื่อสารโทรคมนาคมที่ห้อยลงมาเกี่ยวรถจักรยานยนต์ของผู้ฟ้องคดีที่ ๑ เสียหลักล้มลง เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้รับบาดเจ็บ ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เห็นว่า แม้บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และบริษัทกสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ จะไม่ใช่รัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ก็เป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่ถูกแปรรูปตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๔๒ และโดยที่มาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติให้ในกรณีที่กฎหมายจัดตั้งรัฐวิสาหกิจที่มีการเปลี่ยนทุนเป็นหุ้นของบริษัทหรือกฎหมายอื่นมีบทบัญญัติให้อำนาจรัฐวิสาหกิจดำเนินการใด ๆ ต่อบุคคล ทรัพย์สินหรือสิทธิของบุคคล หรือบทบัญญัติให้การดำเนินการของรัฐวิสาหกิจนั้นได้รับยกเว้นไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการใด หรือได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องใด หรือมีบทบัญญัติให้สิทธิพิเศษแก่รัฐวิสาหกิจนั้นเป็นกรณีเฉพาะ หรือมีบทบัญญัติคุ้มครองกิจการ พนักงาน หรือลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจ ให้ถือว่าบทบัญญัตินั้นมีผลใช้บังคับต่อไป โดยบริษัทมีฐานะอย่างเดียวกับรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายดังกล่าว…” ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๒ จึงรับโอนภารกิจ สิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเดิมและอาจเป็น “หน่วยงานทางปกครอง” ประเภทหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครองหรือให้ดำเนินกิจการทางปกครองได้ หากได้กระทำการเกี่ยวกับการบริการสาธารณะหรือดำเนินกิจการทางปกครองตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ เมื่อข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้เป็นเรื่องการติดตั้งสายสื่อสารโทรคมนาคม อันเป็นภารกิจตามอำนาจหน้าที่ซึ่งมีอยู่เดิมก่อนแปรรูปเป็นบริษัทมหาชน จำกัด การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๒ ในคดีนี้ จึงเป็นการกระทำในฐานะหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินกิจการทางปกครอง อันเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามนัยบทนิยาม “หน่วยงานทางปกครอง” ในมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ส่วนการไฟฟ้านครหลวง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ เป็นรัฐวิสาหกิจที่ก่อตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. ๒๕๐๑ มีอำนาจหน้าที่จัดให้ได้มาและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า ในการดำเนินการเกี่ยวกับการติดตั้งสายสื่อสารและการจำหน่ายไฟฟ้าตามภารกิจของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ซึ่งเป็นการดำเนินกิจการทางปกครองภายในอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ จึงเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามนัยบทนิยาม “หน่วยงานทางปกครอง” ในมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ เช่นกัน โดยในการจัดทำภารกิจติดตั้งสายสื่อสารดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามย่อมต้องรวมถึงหน้าที่ในการจัดระเบียบและดูแลรักษาความปลอดภัยในการใช้และรักษาทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ซึ่งเป็นเจ้าของเสาไฟฟ้าอันเป็นสถานที่ติดตั้งสายสื่อสาร ทั้งนี้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓ (๖) และมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. ๒๕๐๑ เมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสองฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามละเลยต่อหน้าที่ไม่ตรวจสอบดูแล รักษาสายสื่อสารและสายไฟที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ โดยเฉพาะผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ไม่ตรวจสอบดูแล ผู้ขออนุญาตติดตั้งสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การติดตั้งสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและดูแลรักษาให้ใช้งานได้ในสภาพปกติตามระเบียบการไฟฟ้านครหลวง ว่าด้วยหลักเกณฑ์การติดตั้งสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ที่ผู้ฟ้องคดีที่ ๑ ขับขี่มาเกี่ยวสายสื่อสารโทรคมนาคมที่ห้อยลงมาจากเสาไฟฟ้าของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ เสียหลักล้มลง ทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้รับบาดเจ็บ กรณีตามคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้งสองจึงเป็นการฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองละเลยต่อหน้าที่ในการตรวจสอบดูแลและรักษาความปลอดภัยในการใช้และรักษาทรัพย์สินที่ใช้ในการจัดทำสาธารณูปโภคตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองอันเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดอันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง

Share