คำวินิจฉัยที่ 65/2563

แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

คดีที่เอกชน ยื่นฟ้องผู้อำนวยการเขตสายไหม ที่ ๑ กรุงเทพมหานคร ที่ ๒ กระทรวงมหาดไทย ที่ ๓ อธิบดีกรมที่ดิน ที่ ๔ จำเลย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และหน่วยงานทางปกครอง ว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนาง น. ตามคำสั่งศาล นาง น. มีทรัพย์มรดกเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินมีโฉนดรวม ๒ แปลง กับเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท แต่จำเลยทั้งสี่ร่วมกันออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง แปลง “หนองตามิ่งสาธารณประโยชน์” โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทับที่ดินพิพาท โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยที่ ๔ เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงดังกล่าวแล้ว แต่จำเลยที่ ๔ เพิกเฉย ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จำเลยทั้งสี่เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง และให้นาง น. เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท ส่วนจำเลยทั้งสี่ให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน การออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง เห็นว่า แม้โจทก์จะมีคำขอให้เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง แต่เหตุแห่งการขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนาง น. อ้างว่านาง น. เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท และหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงออกทับที่ดินพิพาท อันเป็นการโต้แย้งสิทธิในที่ดิน จึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของนาง น. หรือเป็นที่ดินของรัฐ ดังนั้น เมื่อพิจารณาความมุ่งหมายของโจทก์ในการใช้สิทธิทางศาล ก็เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษารับรองคุ้มครองสิทธิในที่ดินของนาง น. การที่ศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งตามคำขอของโจทก์ได้นั้น ศาลจำต้องพิจารณาให้ได้ความเสียก่อนว่าที่ดินพิพาทนาง น. เป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามที่กล่าวอ้างหรือเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นสำคัญ แล้วจึงจะพิจารณาประเด็นอื่นได้ต่อไป กรณีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม

Share