แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
คดีที่โจทก์เป็นเอกชนยื่นฟ้องกรมชลประทาน จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครอง และเอกชนด้วยกันว่า โจทก์เป็นเจ้าของบ้านซึ่งอยู่บนที่ดินตามแบบสำรวจเนื้อที่ดินเพื่อเสียภาษีบำรุง ท้องที่ (ภ.บ.ท. ๖) เลขสำรวจที่ ๔๘/๑๓ โดยโจทก์ครอบครองที่ดินต่อจากบิดาซึ่งได้ ภ.บ.ท. ๖ ก่อน ทางราชการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงบนอ่างเก็บน้ำห้วยซับเหล็ก โจทก์จึงมีสิทธิครอบครองที่ดินตามกฎหมาย ต่อมาจำเลยทั้งสองกระทำละเมิดโดยการขุดเจาะผิวถนนเพื่อก่อสร้างกำแพงคอนกรีตผ่านทางเข้าบ้านและที่ดินของโจทก์โดยไม่เปิดช่องทางให้โจทก์และบริวารใช้พื้นที่เข้าออกสู่ทางสาธารณะ ทำให้โจทก์ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะเพราะมีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่ ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ เพิกถอนคำสั่งก่อสร้างกำแพงคอนกรีตในส่วนที่ปิดกั้นทางเข้าออกที่ดินและบ้านของโจทก์ ให้ปิดกลบถนนทางเข้าออกที่ดินให้กลับคืนดีดังเดิม และให้จำเลยทั้งสองชำระค่าขาดประโยชน์และค่าปรับแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองให้การทำนองเดียวกันว่า ที่ดินและบ้านที่โจทก์ครอบครองเป็นที่ราชพัสดุอยู่ในแนวเขตที่ดินสันอ่างเก็บน้ำห้วยซับเหล็ก โจทก์ไม่ใช่ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินโดยชอบ จำเลยทั้งสองมิได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ แม้กรมชลประทาน จำเลยที่ ๑ จะเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่เมื่อพิจารณาคำฟ้องที่กล่าวหาว่าจำเลยทั้งสองกระทำละเมิดโดยการที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดเทียรประเสริฐ จำเลยที่ ๒ ขุดเจาะผิวถนนเพื่อก่อสร้างกำแพงคอนกรีตผ่านทางเข้าบ้านและที่ดินของโจทก์โดยไม่เปิดช่องทางให้โจทก์ และบริวารใช้พื้นที่เข้าออกสู่ทางสาธารณะ ทำให้โจทก์ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะเพราะมีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่นั้น การกระทำดังกล่าวมิได้เกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันจะเข้าหลักเกณฑ์ของมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่จะอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ดังนั้น ข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดทางแพ่งของหน่วยงานทางปกครองและคดีพิพาทระหว่างเอกชนด้วยกันที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม