คำวินิจฉัยที่ 35/2563

แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

คดีที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสิบเป็นเอกชนยื่นฟ้องอธิบดีกรมที่ดิน ที่ ๑ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ ๒ นายอำเภอขุขันธ์ ที่ ๓ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ สาขาขุขันธ์ ที่ ๔ ผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งสิบเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตาม ส.ค. ๑ เลขที่ ๒๖๔ ต่อเนื่องมาจากบรรพบุรุษ แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ รังวัดที่ดินแปลงสาธารณประโยชน์ทุ่งเลี้ยงสัตว์ป่าบกเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ และ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ ได้รังวัดที่ดินโดยกำหนดให้ที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบเป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน (ทุ่งเลี้ยงสัตว์ป่าบก) และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) เลขที่ ศก ๒๗๒๒ แปลง “ทุ่งเลี้ยงสัตว์ป่าบก” โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทับที่ดินที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสิบครอบครองและทำประโยชน์ ขอให้เพิกถอน น.ส.ล. เลขที่ ศก ๒๗๒๒ แปลง “ทุ่งเลี้ยงสัตว์ป่าบก” และให้ที่ดินแปลงดังกล่าวมีสถานะเป็นที่ดินตกสำรวจรังวัดอันมีราษฎรเข้าครอบครองทำประโยชน์ด้านเกษตรกรรม ซึ่งมีครอบครัวผู้ฟ้องคดีทั้งสิบเป็นผู้ได้รับสิทธิครอบครองในที่ดิน ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ให้การทำนองเดียวกันว่า ที่ดินแปลงพิพาทเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน การออก น.ส.ล.เลขที่ ศก ๒๗๒๒ แปลง “ทุ่งเลี้ยงสัตว์ป่าบก” ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เห็นว่า แม้คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งสิบ จะมีคำขอให้เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) เลขที่ ศก ๒๗๒๒ แปลง “ทุ่งเลี้ยงสัตว์ป่าบก” ที่ทับซ้อนกับที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบ อันมีลักษณะเป็นการตั้งรูปเรื่องการฟ้องคดีเป็นคดีฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ผู้ฟ้องคดีทั้งสิบก็มีคำขอให้รับรองสิทธิครอบครองในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบตาม ส.ค. ๑ เลขที่ ๒๖๔ ที่ครอบครองต่อเนื่องมาจาก บรรพบุรุษตั้งแต่ปี ๒๔๘๕ ด้วย โดยผู้ฟ้องคดีทั้งสิบกล่าวอ้างว่าที่ดินพิพาทบางส่วนที่นำไปออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) เลขที่ ศก ๒๗๒๒ นั้น เป็นที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบ จึงมีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบหรือเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน ดังนั้น เมื่อพิจารณาความมุ่งหมายของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบในการใช้สิทธิทางศาลก็เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษารับรองคุ้มครองสิทธิในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบเป็นสำคัญ กรณีจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิในที่ดิน แม้ผู้ฟ้องคดีทั้งสิบจะตั้งรูปเรื่องในการฟ้องคดีโดยมีคำขอให้เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) เลขที่ ศก ๒๗๒๒ แปลง “ทุ่งเลี้ยงสัตว์ป่าบก” มาด้วย ก็เป็นเพียงผลของการวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินพิพาทว่าเป็นที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้งสิบหรือที่ดินของรัฐ กรณีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม

Share