คำวินิจฉัยที่ 16/2562

แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

คดีนี้เอกชน ยื่นฟ้อง หมวดการทางสอง ที่ ๑ แขวงทางหลวงแพร่ ที่ ๒ กรมทางหลวง ที่ ๓ จำเลย ว่า โจทก์เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวกับค่าปลงศพผู้ตาย ค่าใช้จ่ายในระหว่างประกอบพิธีจัดงานศพ ค่าขาดไร้อุปการะและค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้ตายพร้อมดอกเบี้ย ตามมาตรา ๖๑ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ บัญญัติว่า ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นทำให้เกิดความเสียแก่ทางหลวงหรือไม่ปลอดภัยแก่การจราจรในทางหลวง ให้เจ้าพนักงานซึ่งผู้อำนวยการทางหลวงแต่งตั้งให้ควบคุมทางหลวงมีอำนาจประกาศห้ามใช้ยานพาหนะบนทางหลวงนั้นได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยให้ปิดประกาศนั้นไว้ในที่เปิดเผย ณ บริเวณที่มีเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นนั้น ประกอบกับกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ข้อ ๒ กำหนดว่า ให้กรมทางหลวงมีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง การก่อสร้างและบำรุงรักษาทางหลวงให้มีโครงข่ายทางหลวงที่สมบูรณ์ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทางโดยให้มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวงเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงสัมปทาน รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง (๒) วิจัยและพัฒนางานก่อสร้าง บูรณะและบำรุงรักษาทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงสัมปทาน… และข้อ ๑๒ ที่กำหนดว่า แขวงทางหลวงมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้… (๓) ดำเนินการเกี่ยวกับงานบำรุงรักษาทางหลวง งานอำนวยความปลอดภัยทางหลวง และงานก่อสร้างโครงการขนาดเล็ก… เมื่อข้อเท็จจริงตามคำฟ้องคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า มีลมพายุฝนตกอย่างรุนแรงเป็นเหตุให้ต้นไม้ใหญ่ข้างทางล้มลงกีดขวางเส้นทางสัญจรหลายต้น โดยจำเลยที่ ๑ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่มาตัดต้นไม้ที่ล้มขวางออกไปครึ่งหนึ่ง คงเหลือไว้อีกครึ่งหนึ่งขณะนั้นเป็นเวลาค่ำมืดแล้วไม่มีแสงสว่างในบริเวณที่เกิดเหตุ จำเลยที่ ๑ ไม่จัดให้มีสัญญาณเตือนภัยก่อนที่จะถึงจุดเกิดเหตุเพื่อแสดงให้รู้ว่ามีซากต้นไม้ล้มขวางทางอยู่ครึ่งหนึ่ง หรืออาจหาสิ่งกีดขวางมาตั้งวางเพื่อเตือนผู้สัญจรไปมาให้ใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติ เป็นเหตุให้ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ชนเข้ากับต้นไม้ในช่องทางเดินรถด้านซ้ายที่ผู้ตายขับมาในช่องทางที่ถูกต้องล้มลงได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย คดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดอันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง

Share