แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
ผู้ฟ้องคดีเป็นเอกชนยื่นฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุโขทัย ที่ ๑ อธิบดีกรมที่ดิน ที่ ๒ ผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ อ้างว่า ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท ตามหลักฐาน ส.ค. ๑ เลขที่ ๑๕๗ ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ แจ้งว่าไม่สามารถออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ฟ้องคดีได้ เนื่องจากที่ดินแปลงพิพาทตั้งอยู่ในเขตที่สาธารณประโยชน์ “ทุ่งพระบาทน้อย” และ หลักฐาน ส.ค. ๑ ที่นำมาขอออกโฉนดที่ดินเป็นการแจ้งการครอบครองภายหลังจากการเป็นที่ดินของรัฐ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการปฏิเสธไม่ออกโฉนดที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้ฟ้องคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาล มีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งไม่ออกโฉนดที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้ฟ้องคดี และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ฟ้องคดีภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด เห็นว่า แม้ผู้ฟ้องคดีจะมีคำขอให้เพิกถอน คำสั่งไม่ออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ฟ้องคดี ซึ่งเป็นการตั้งรูปเรื่องการฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครอง แต่เมื่อพิจารณาเจตนารมณ์ของผู้ฟ้องคดีที่นำคดีนี้มาฟ้องต่อศาลก็เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ฟ้องคดีตามหลักฐานการครอบครองที่ดิน ที่ผู้ฟ้องคดีอ้างว่าเป็นการครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย กรณีจึงเป็นการฟ้องขอให้ศาลรับรองและคุ้มครองสิทธิในที่ดินของตนซึ่งถูกโต้แย้งโดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ไม่ออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยอ้างว่าที่ดินตาม ส.ค. ๑ เลขที่ ๑๕๗ ของผู้ฟ้องคดีอยู่ในเขตที่ดินหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ สท ๐๘๑๘ ซึ่งออกมาก่อนที่เจ้าของ ส.ค. ๑ เดิม แจ้งการครอบครอง กรณีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม