คำสั่งศาลฎีกาที่ 2930/2557

แหล่งที่มา :

ย่อสั้น

ข้อเท็จจริงได้ความจากผู้คัดค้านว่า จากข้อมูลสมาชิกที่พรรคการเมืองบันทึกเข้าระบบถึงวันที่ 4 มีนาคม 2557 ตามเอกสารท้ายคำคัดค้านหมายเลข 6 ปรากฏว่า ผู้ร้องเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย เลขประจำตัวสมาชิก 00011405 เมื่อวันที่ 4มิถุนายน 2553 ซึ่งตามมาตรา 19 วรรคท้ายแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นทะเบียนที่ถูกต้องและแท้จริงตามกฎหมาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นอย่างอื่น การที่ผู้ร้องอ้างว่า ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยตั้งแต่ปี 2551 จึงขัดกับข้อมูลสมาชิกที่พรรคการเมืองบันทึกเข้าระบบดังกล่าว กรณีจึงเป็นการโต้แย้งว่าทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้องไม่มีหลักฐานใด ๆ มาแสดงให้ศาลเห็นว่าทะเบียนสมาชิกดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือแท้จริงอย่างใด ทั้งระยะเวลาที่ระบุว่าผู้ร้องเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยก็เป็นระยะเวลา หลังจากที่ผู้ร้องอ้างว่าลาออกแล้ว การที่ผู้ร้องอ้างว่าลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยจึงเป็นกรณีที่ขัดต่อความเป็นจริง นอกจากนี้ทางพิจารณาไม่ปรากฏหลักฐานหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคที่ยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองแต่อย่างใด ฟังได้ว่า ผู้ร้องเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2553 และยังไม่พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพ ผู้ร้องจึงขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 115 (6)

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้องว่า เมื่อวันที่ 4มีนาคม 2557 ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ต่อมาผู้คัดค้านตรวจหลักฐานการสมัครคุณสมบัติและสอบสวนการสมัครรับเลือกตั้งของผู้ร้องแล้ว เห็นว่า ผู้ร้องเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 ความจริงแล้ว ผู้ร้องเคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่เมื่อประมาณปี 2551 ต่อมาพรรคการเมืองใหม่เปลี่ยนชื่อเป็นพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยโดยมีผู้ร้องเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 4มิถุนายน 2553 ซึ่งเป็นข้อมูลที่พรรคสังคมประชาธิปไตยไทยแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองโดยผู้ร้องไม่มีเจตนาและต้องการเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย เนื่องจากผู้ร้องได้ลาออกจากพรรคการเมืองใหม่แล้วเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และไม่ได้ทำกิจกรรมใด ๆ กับพรรคอีก ตามเอกสารบันทึกความจริงของแกนนำพรรคต่อกรรมการพรรคการเมืองใหม่ทั้งสามคนตามเอกสาร ท้ายคำร้อง ขอให้มีคำสั่งคืนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาแก่ผู้ร้อง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านตรวจสอบจากระบบบริหารฐานข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งพบว่า ผู้ร้องเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2553 เลขประจำตัวสมาชิก 00011405 จึงต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 115 (6)และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 ขอให้ยกคำร้อง
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งวินิจฉัยแล้ว ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 ซึ่งกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 30 มีนาคม 2557 เมื่อวันที่ 4มีนาคม 2557 ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ต่อมาวันที่ 9 มีนาคม 2557 ผู้คัดค้านไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งดังกล่าวอ้างว่า ผู้ร้องเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย เลขประจำตัวสมาชิก 00011405 โดยสมัครเป็นสมาชิกวันที่ 4มิถุนายน 2553 เดิมพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยใช้ชื่อว่า พรรคการเมืองใหม่ มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทฺธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือไม่ เห็นว่าตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 มาตรา 20 วรรคสอง บัญญัติว่า “การลาออกจากสมาชิกตามวรรคหนึ่ง (2) ให้ถือว่าสมบูรณ์เมื่อได้ยื่นใบลาออกต่อนายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง” มาตรา 19 วรรคสี่ บัญญัติว่า “ให้หัวหน้าพรรคการเมืองแจ้งจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงพร้อมด้วยรายชื่ออาชีพและที่อยู่ของสมาชิกดังกล่าว ตามวิธีการที่นายทะเบียนกำหนด …” และตามประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การรับสมัครสมาชิกพรรคการเมือง การจัดทำและแบบทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง และวิธีการแจ้งจำนวนสมาชิกพรรคการเมืองที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 กำหนดให้การแจ้งดังกล่าวต้องกระทำภายในวันที่ 7 ของทุก 3 เดือน โดยการส่งเอกสารหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ที่ผู้ร้องอ้างว่า ผู้ร้องลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยแล้วตั้งแต่ปี 2551 นั้น ข้อเท็จจริงได้ความจากผู้คัดค้านว่า จากข้อมูลสมาชิกที่พรรคการเมืองบันทึกเข้าระบบถึงวันที่ 4มีนาคม 2557 ตามเอกสารท้ายคำคัดค้านหมายเลข 6 ปรากฏว่า ผู้ร้องเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย เลขประจำตัวสมาชิก 00011405 เมื่อวันที่ 4มิถุนายน 2553 ซึ่งตามมาตรา 19 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นทะเบียนที่ถูกต้องและแท้จริงตามกฎหมาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นอย่างอื่น การที่ผู้ร้องอ้างว่าได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยตั้งแต่ปี 2551 จึงขัดกับข้อมูลสมาชิกที่พรรคการเมืองบันทึกเข้าระบบดังกล่าว กรณีจึงเป็นการโต้แย้งว่าทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้องไม่มีหลักฐานใด ๆ มาแสดงให้ศาลเห็นว่าทะเบียนสมาชิกดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือแท้จริงอย่างใด ทั้งระยะเวลาที่ระบุว่าผู้ร้องเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยก็เป็นระยะเวลา หลังจากที่ผู้ร้องอ้างว่าลาออกแล้ว การที่ผู้ร้องอ้างว่าลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยจึงเป็นกรณีที่ขัดต่อความเป็นจริง นอกจากนี้ทางพิจารณาไม่ปรากฏหลักฐานหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคที่ยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองแต่อย่างใด ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่า ผู้ร้องไม่เคยรู้จักพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย ไม่เคยมีส่วนร่วมกับพรรคดังกล่าว ก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อ พยานหลักฐานของผู้ร้องไม่สามารถหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมายได้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ร้องเป็นสมาชิกพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยตั้งแต่วันที่ 4มิถุนายน 2553 และยังไม่พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพ ผู้ร้องจึงขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 115 (6) การที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัคร ผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาชอบแล้ว
จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง.

Share