แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยยักยอกเงินที่ผู้เสียหายมอบให้นำไปเข้าบัญชีเงินฝากของผู้เสียหาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยยักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ผู้เสียหายเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการมอบให้นำไปฝากเข้าบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัด เงินจำนวนดังกล่าวแม้จะเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด แต่ก็เป็นเงินที่อยู่ในความครอบครองรับผิดชอบของผู้เสียหาย ผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ และผู้ว่าคดีโจทก์มีอำนาจฟ้อง กรณีดังกล่าวไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความแตกต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องในข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้รับมอบเงินจากผู้เสียหายถือว่าจำเลยไม่ได้หลงต่อสู้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายเรืองเกียรติ จันทราวารรัตน์ ผู้เสียหายมอบเงิน ๒๐,๐๐๐ บาทให้จำเลยนำไปฝากเข้าบัญชีของผู้เสียหายทีธนาคาร จำเลยได้บังอาจยักยอกเงินจำนวนดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ กับให้จำเลยคืนหรือใช้เงินที่ยักยอก
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ จำคุก ๔ เดือน กับให้จำเลยคืนหรือใช้เงินที่ยักยอก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายเรื่องอำนาจฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ตามฟ้องจะบรรยายว่าจำเลยยักยอกเงินที่นายเรืองเกียรติ จันทราวารีรัตน์ มองให้นำไปเข้าบัญชีเงินฝากของนายเรืองเกียรติ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยยักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยสงวนมอเตอร์ที่นายเรืองเกียรติเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการมอบให้นำไปฝากเข้าบัญชีของห้างหุ้นส่วนก็ตาม เห็นว่าเงินจำนวนดังกล่าวแม้จะเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยสงวนมอเตอร์ แต่ก็เป็นเงินที่อยู่ในความครอบครองรับผิดชอบของนายเรืองเกียรติ หุ้นส่วนผู้จัดการได้มอบให้จำเลยนำไปฝากเข้าบัญชีของห้างหุ้นส่วน ฯ นายเรืองเกียรติจงเป็นผู้เสียหาย มีอำนาจร้องทุกข์ โจทก์มีอำนาจฟ้อง และกรณีดังกล่าวไม่ถือว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความแตกต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องในข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้รับมอบเงินจากนายเกียรติให้นำไปฝากเข้าบัญชีธนาคาร ถือว่าจำเลยไม่ได้หลงต่อสู้ ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยได้
พิพากษายืน
(อุดม จาละ สงวน สิทธิไชย ปรีชา สุมาวงศ์)