แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายและพี่สาวจำเลยด่าท้าทายและจะทำร้ายกัน จำเลยซึ่งเห็นเหตุการณ์ตลอด ได้ถือปืนบรรจุกระสุนพร้อมไปยืนคุมเชิงห่างผู้เสียหายเพียง 3 วา พฤติการณ์ของจำเลยเช่นนี้เป็นการแสดงเจตนาให้เห็นว่าจำเลยเข้าร่วมเป็นฝ่ายกับพี่สาวจำเลยในการทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหายและเป็นเชิงท้าทาย เมื่อผู้เสียหายชักเหล็กแหลมยาว 1 คืบ เดินเข้าไปห่างจำเลย 2 วา จำเลยก็เอาปืนยิงผู้เสียหายทันที ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่ากระทำไปเพื่อป้องกันตัวหาได้ไม่
เมื่อกระสุนที่จำเลยยิงพลาดไปถูกผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วย จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายเฉลียว เล็กกำพุช ผู้เสียหายกับจำเลยได้โต้เถียงท้าทายซึ่งกันและกันแล้วนายเฉลียวได้ชักอาวุธวิ่งเข้าหาจำเลย จำเลยจึงใช้ปืนลูกซองยาวยิงนายเฉลียวบาดเจ็บสาหัสและกระสุนได้บาดไปถูกเด็กชายประสิทธิ์หรือเต๋า ท่าพริก ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๘๐,๙๐,๙๑,๖๐
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ไม่มีความผิด และที่กระสุนปืนพลาดไปถูกเด็กชายประสิทธิ์หรือเต๋า ท่าพริก ถึงแก่ความตายด้วยนั้น จำเลยก็ไม่มีความผิดเช่นกัน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ บทหนึ่ง และมาตรา ๒๘๘ ประกอบมาตรา ๘๐ อีกบทหนึ่ง จำคุกจำเลย ๒๐ ปี จำเลยอายุ ๑๗ ปี ลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๕ จำคุก ๑๐ ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษอีกกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลย ๕ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายเฉลียวผู้เสียหายกับนางสำราญพี่สาวจำเลยด่าท้าทายและจะทำร้ายกัน จำเลยรู้เห็นเหตุการณ์นั้นโดยตลอด จึงถือปืนลูกซองยาวบรรจุกระสุนพร้อมของนายไวไปยืนคุมเชิงห่างนายเฉลียวเพียง ๓ วา พฤติการณ์ของจำเลยเป็นเชิงท้าทายและเป็นการแสดงเจตนาให้เห็นว่า จำเลยเข้าร่วมเป็นฝ่ายนางสำราญพี่สาวจำเลยในการทะเลาะวิวาทและเตรียมตัวจะต่อสู้กับนายเฉลียวอย่างเต็มที่ เมื่อนายเฉลียวท้าให้จำเลยยิงและซักเหล็กแหลมยาว ๑ คืบ เดินเข้าไปห่างจำเลยประมาณ ๒ วา จำเลยก็เอาปืนลูกซองยาวที่เตรียมมายิงนายเฉลียวทันที ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่ากระทำไปเพื่อป้องกันตัวหาได้ไม่
ส่วนกระสุนปืนที่จำเลยยิงพลาดไปถูกเด็กชายประสิทธิ์หรือเต๋าถึงแก่ความตายด้วยนั้น เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๐
พิพากษายืน