คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4264/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยไม่ซื้อหุ้นให้โจทก์ตามที่โจทก์สั่งซื้ออันเป็นความผิดตามมาตรา21และมีบทลงโทษตามมาตรา42แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพ.ศ.2517ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกามีพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ฉบับที่2)พ.ศ.2527 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่27กันยายนพ.ศ.2527ยกเลิกความในมาตรา21และมาตรา42เดิมโดยมิได้บัญญัติถึงลักษณะความผิดที่โจทก์ฟ้องไว้อีกจึงเป็นกรณีที่กฎหมายที่บัญญัติในภายหลังมิได้กำหนดให้การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดฉะนั้นการกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดตามฟ้องหรือไม่ก็ตามการวินิจฉัยก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์เพราะแม้จะเป็นความผิดจำเลยก็พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา2วรรคสอง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไม่ซื้อหุ้นให้โจทก์ตามที่โจทก์สั่งซื้อ โดยมีเจตนาทุจริตขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 352, 353, 354, 83, 91 พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 มาตรา 21, 42 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า คดีของโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะเรื่องอำนาจฟ้องตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไม่ซื้อหุ้นให้โจทก์ตามที่โจทก์สั่งซื้อโดยมีเจตนาทุจริต อันเป็นความผิดตามมาตรา 21, 42 แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2527 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2527 เป็นต้นไป ยกเลิกความในมาตรา 21และมาตรา 42 เดิม โดยมิได้บัญญัติถึงลักษณะความผิดที่โจทก์ฟ้องในพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2527 อีก จึงเป็นกรณีที่กฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง มิได้กำหนดให้การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิด ฉะนั้นการกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดตามฟ้องหรือไม่ก็ตาม การวินิจฉัยก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์ เพราะแม้จะเป็นความผิด จำเลยก็พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องศาลฎีกาเห็นด้วยในผล ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

Share