คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประกาศกำหนดการควบคุมการค้าข้าวมีข้อความว่า “ห้ามมิให้ยักย้ายหรือขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป ออกไปจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุม เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่จังหวัดสตูลหรือผู้รักษาการแทน….ฯ” นั้น กินความถึงการขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป ออกจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีข้าวสารหนัก ๓,๕๙๒ กิโลกรัม ไว้ในความครอบครอง โดยมิได้แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บและขนย้ายข้าวดังกล่าวออกจากสถานที่เก็บโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยข้าวของกลาง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๔, ๕, ๗, ๘, ๑๗, ๒๑ ทวิ; (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๔, ๑๐, ๑๒
ประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ การค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ (ฉบับที่ ๘๐) พ.ศ. ๒๕๐๙
ประกาศผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ฉบับลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๐ เรื่องกำหนดการค้าข้าวและแจ้งปริมาณสถานที่เก็บข้าว กับขอให้ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยได้ข้าวมาไว้ในความครอบครองตั้งแต่เมื่อใด เกินเวลาตามประกาศของผู้ว่า ราชการจังหวัดแล้วหรือไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานไม่แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บข้าว ส่วนความผิดฐานขนย้ายข้าวสารนั้น ฟังได้ว่าจำเลยได้ขนย้ายข้าวสาร ๗ กระสอบ น้ำหนักรวมกันตั้งแต่ ๒๐๐ กิโลกรัม จากที่เก็บโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการฝ่าฝืนประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลจริง จำเลยจึงมีความผิด ส่วนข้าวอีก ๓๐ กระสอบเป็นข้าวสารที่จำเลยขนย้ายมาจากตำบลอื่นซึ่งมิใช่ตำบลที่โจทก์ฟ้อง ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ลงโทษจำเลยไม่ได้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๑๗, ๒๑ ทวิ; (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๑๐, ๑๒
ประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ (ฉบับที่ ๘๐) พ.ศ. ๒๕๐๙
ประกาศผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๐ เรื่องกำหนดการควบคุมการค้าข้าวและแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บข้าว ให้จำคุกจำเลย ๓ เดือน ปรับ ๑,๐๐๐ บาท โทษจำรอไว้ ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา ๕๖ ริบข้าวและกระสอบใส่ข้าวของกลาง ๗ กระสอบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ความผิดฐานยักย้ายหรือขนย้ายข้าวออกไปจากสถานที่เก็บเป็นความผิดต่อเนื่องกันไป ไม่ได้เป็นความผิดขาดตอนเพียงขนข้าวจากยุ้งหรือจากสถานที่เก็บเท่านั้น ความผิดจะเกิดขึ้นทุก ๆ ตำบลที่ขนย้ายข้าวไปภายในเขตที่ควบคุม คดีนี้เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยข้าวของกลางขณะขนย้ายข้าวออกจากสถานที่เก็บในเขตตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล อันเป็นเขตควบคุมการค้าข้าว จึงเป็นความผิดตามประกาศดังกล่าว ไม่ใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๑๗, ๒๑ ทวิ; (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๑๐, ๑๒
ประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ (ฉบับที่ ๘๐) พ.ศ. ๒๕๐๙ และประกาศผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๐ เรื่องกำหนดการควบคุมการค้าข้าวและแจ้งปริมาณสถานที่เก็บข้าว ให้จำคุกจำเลย ๑ ปี ริบข้าวและกระสอบใส่ข้าวทั้ง ๓๗ กระสอบ นอกที่แก้นี้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยได้พร้อมด้วยข้าวสาร ๓๗ กระสอบ น้ำหนัก ๓,๕๙๒ กิโลกรัม ที่ตำบลคลองขุด อันเป็นเขตควบคุมการค้าข้าวและเขตห้ามขนย้ายข้าวและเห็นว่าประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เรื่องกำหนดการควบคุมการค้าข้าวฯ ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๐ ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓,๔,๕ และ ๘ แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ และ มาตรา ๔, ๕ แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ ข้อ ๔ ว่า “ห้ามมิให้ยักย้ายหรือขนย้ายข้าวทุกชนิด ตั้งแต่ ๒๐๐ กิโลกรัมขึ้นไป ออกไปจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุม เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่จังหวัดสตูลหรือผู้รักษาการแทน…ฯ” ประกาศดังกล่าวนั้นกินความถึงการขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ ๒๐๐ กิโลกรัมขึ้นไปออกจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุม โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ เพราะประกาศดังกล่าวใช้ถ้อยคำว่า ห้ามยักย้ายหรือขนย้าย ฯ ซึ่งรวมใจความสำคัญได้ว่า ห้ามยักย้ายหรือขนย้ายข้าวทุกชนิดภายในเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาตนั่นเองโดยถ้าประสงค์จะถือว่าเป็นความผิดเฉพาะแต่ตอนขนออกจากสถานที่เก็บตามที่แจ้งปริมาณไว้
จะใช้ถ้อยคำเพียงแต่ว่า ห้ามขนย้ายข้าวที่แจ้งปริมาณไว้ออกจากสถานที่เก็บโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ ก็เป็นการเพียงพอแล้ว โดยไม่ต้องมีคำว่า ภายในเขตควบคุมอีก เพราะเขตควบคุมนั้นกินความกว้างขวางถึงตลอดทั้งเขตตำบล อำเภอหรือจังหวัด ต่อเนื่องกันไปแต่ละประเภท ดังปรากฏตามประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ การค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ (ฉบับที่ ๘๐) พ.ศ. ๒๕๐๙ แล้ว ฉะนั้น การที่เจ้าพนักงานจับจำเลยได้ขณะจำเลยใช้รถยนต์บรรทุกยักย้ายหรือขนย้ายข้าวของกลาง ๓๗ กระสอบ อันมีจำนวน ๓,๕๙๒ กิโลกรัม อันเป็นจำนวนเกิน ๒๐๐ กิโลกรัม ตามประกาศผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ออกจากสถานที่เก็บโรงสีต่าง ๆ ในเขตอำเภอเมืองสตูล อันเป็นเขตห้ามขนย้ายข้าว จึงมีความผิดฐานยักย้ายหรือขนย้ายข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่จังหวัดสตูลฯ ตามฟ้อง หาใช่เป็นความผิดเพียงฐานไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บไม่
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share