คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479 มาตรา 7 แยกเป็นการกระทำได้ 3 อย่างคือ (1) สร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วน (2) ต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารที่มีอยู่แล้วในลักษณะอันเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่อาคารนั้นมาก หรือเป็นการเพิ่มหรือขยายพื้นแห่งอาคารนั้นมาก (3) แปลงอาคารสำหรับบุคคลอาศัยเป็นอาคารเพื่อประโยชน์อย่างอื่นกลับกัน การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างนี้ถือว่าทำการปลูกสร้างอาคาร ฉะนั้น โจทก์จะบรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยทำการปลูกสร้างอาคารเท่านั้นก็ไม่ชัดพอจะให้จำเลยเข้าใจฟ้องว่าจำเลยได้ทำการปลูกสร้างอาคารอย่างไหนในสามอย่างดังกล่าว
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า จำเลยได้ปลูกสร้างอาคารโดยการต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารเดิมในลักษณะที่เป็นการเพิ่มน้ำหนักและขยายพื้นแห่งอาคารนั้นมากดังนี้ ไม่ว่าการกระทำของจำเลยจะเป็นการสร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วนหรือไม่ ศาลก็จะลงโทษจำเลยในเรื่องปลูกสร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วนไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

ย่อยาว

คดีทั้ง ๑๑ สำนวน ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน
โจทก์ฟ้องเป็นใจความอย่างเดียวกันว่าจำเลยทั้ง ๑๑ สำนวนต่างปลูกสร้างอาคารโดยการต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารในลักษณะที่เป็นการเพิ่มน้ำหนักและขยายพื้นแห่งอาคารนั้นมาก ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. ๒๔๗๙ มาตรา ๖, ๗ (๒) , ๑๑ พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๓ พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.๒๔๗๙
จำเลยทุกสำนวนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยปลูกสร้างขึ้นตามฟ้องแต่เป็นการสร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วน ไม่ใช่เป็นการเพิ่มน้ำหนักและขยายพื้นที่แห่งอาคารเดิมมาก โจทก์เรียกชื่อการกระทำผิดพลาด ฟ้องกล่าวถึงการกระทำของจำเลยครบถ้วนลงโทษได้ พิพากษาว่าจำเลยทุกสำนวนผิดตามฟ้องโจทก์
จำเลยทุกสำนวนอุทธณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในข้อที่ปลูกสร้างอาคาร โดยการต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารในลักษณะที่เป็นการเพิ่มน้ำหนักและขยายพื้นที่แห่งอาคารนั้นมาก ไม่ได้กล่าวหาและขอให้ลงโทษในข้อหาปลูกสร้างอาคาร โดยสร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วน ลงโทษไม่ได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การปลูกสร้างอาคารตามมาตราแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.๒๔๗๙ แยกการกระทำได้ ๓ อย่างคือ (๑) สร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วน (๒) ต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารที่มีอยู่แล้วในลักษณะอันเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่อาคารนั้นมากหรือเป็นการเพิ่มหรือขยายพื้นแห่งอาคารนั้นมาก (๓) แปลงอาคารสำหรับบุคคลอาศัยเป็นอาคารเพื่อประโยชน์อย่างอื่นหรือกลับกันการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างนี้ถือว่าทำการปลูกสร้างอาคาร ฉะนั้น โจทก์จะบรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยทำการปลูกสร้างอาคารเท่านั้น ก็ไม่ชัดพอจะให้จำเลยเข้าใจฟ้องว่า จำเลยได้ทำการปลูกสร้างอาคารอย่างไหนในสามอย่างดังกล่าวฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยได้ปลูกสร้างอาคารโดยการต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารเดิมในลักษณะที่เป็นการเพิ่มน้ำหนักและขยายพื้นที่แห่งอาคารนั้นมาก ดังนี้ ไม่ว่าการกระทำของจำเลยจะเป็นการสร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วนตามมาตรา ๗ ข้อ ๑ หรือไม่ ศาลก็ลงโทษจำเลยในเรื่องปลูกสร้างอาคาร โดยสร้างอาคารขึ้นใหม่ล้วนไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒
พิพากษายืน.

Share