คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1860/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เคยฟ้องจำเลยต่อศาลในข้อหาเดียวกัน บทมาตราที่ขอให้ลงโทษก็เช่นเดียวกัน โดยอาศัยหนังสือของจำเลยฉบับเดียวกันเป็นมูลฟ้องร้อง และโจทก์ได้ถอนฟ้องคดีนั้นไปจากศาลแล้ว โจทก์จะนำคดีมาฟ้องจำเลยอีกหาได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 36
หนังสือที่จำเลยกล่าวหาโจทก์ฉบับเดียว แต่บรรยายการกระทำของโจทก์เป็น 3 ข้อ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพียงครั้งเดียวและกรรมเดียว มิใช่ต่างกรรมต่างวาระ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยเพียงครั้งเดียว จะแบ่งฟ้องเป็นข้อเป็นตอนไม่ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 908/2496)
แม้จะเป็นการถอนฟ้องที่ยังไม่ได้มีการไต่สวนมูลฟ้องก็ตาม ก็อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะนำมาฟ้องใหม่อีกไม่ได้ เพราะถือว่าได้มีการฟ้องคดีอาญาต่อศาลแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำหนังสือแจ้งข้อความเท็จต่อปลัดกระทรวงยุติธรรมผู้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ว่าโจทก์เอาทรัพย์สินทางราชการไปใช้ ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗ กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๐๖ ข้อ ๒๘
ในวันไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์รับว่าโจทก์อาศัยหนังสือของจำเลยที่มีไปถึงปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นมูลฟ้อง และหนังสือดังกล่าวโจทก์เคยนำไปฟ้องต่อศาลจังหวัดพิษณุโลกแล้ว แต่โจทก์ถอนฟ้องและศาลได้อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปมาแล้ว ศาลชั้นต้นจึงสั่งงดไต่สวนมูลฟ้อง แล้วมีคำสั่งว่า โจทก์เคยนำหนังสือฉบับเดียวกันนี้ไปฟ้องจำเลยที่ศาลจังหวัดพิษณุโลกในข้อหาเดียวกัน และบทมาตราที่ขอให้ลงโทษก็เป็นบทมาตราเดียวกัน แล้วโจทก์ก็ถอนฟ้องเสีย โจทก์จะนำหนังสือฉบับเดียวกันนี้ ซึ่งโจทก์เคยฟ้องจำเลยมาแล้ว มาเป็นมูลเหตุฟ้องร้องกันอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๓๖
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่าโจทก์เคยฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดพิษณุโลกในข้อหาเดียวกัน บทมาตราที่ขอให้ลงโทษก็เช่นเดียวกัน โดยอาศัยหนังสือของจำเลยที่ ๕/๒๕๑๑ ลงวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๑๑ มาเป็นมูลฟ้องร้องก็เช่นเดียวกันอีก และโจทก์ได้ถอนฟ้องคดีนั้นไปจากศาลแล้ว โจทก์จะนำคดีมาฟ้องจำเลยอีกหาได้ไม่ เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๖
ที่โจทก์ฎีกาว่า ตามหนังสือของจำเลยมีถึงปลัดกระทรวงยุติธรรมหาว่าโจทก์กระทำความผิด ๓ อย่าง จำเลยจึงต้องมีความผิดทั้ง ๓ อย่าง เพราะเป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระกัน มิใช่ครั้งเดียวกัน ปรากฏว่าเป็นหนังสือฉบับเดียว แต่หากบรรยายการกระทำของโจทก์เป็น ๓ ข้อ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพียงครั้งเดียวและกรรมเดียวเท่านั้น หาใช่ต่างกรรมต่างวาระไม่ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยเพียงครั้งเดียว จะแบ่งฟ้องเป็นข้อเป็นตอนไม่ได้ ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๙๐๘/๒๔๙๖
ที่โจทก์ฎีกาว่า การถอนฟ้องจะกระทำได้ต่อเมื่อศาลได้รับระทับฟ้องไว้แล้วเท่านั้น ไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า การถอนฟ้องก่อนไต่สวนมูลฟ้องจะนำมาฟ้องอีกไม่ได้นั้น เห็นว่าแม้จะเป็นการถอนฟ้องที่ยังไม่ได้มีการไต่สวนมูลฟ้องก็ตาม ก็อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะนำมาฟ้องใหม่อีกไม่ได้เช่นกัน เพราะถือว่าได้มีการฟ้องคดีอาญาต่อศาลโดยถูกต้องแล้ว
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share