แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีหมิ่นประมาทจำเลยกล่าวว่าโจทก์ “เป็นผีปอบ” ดังนี้ เป็นถ้อยคำพูดว่าโจทก์ในสิ่งซึ่งไม่อาจเป็นไปได้ จึงมิใช่เรื่องใส่ความอันจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้พูดใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่ ๓ ว่า “โจทก์เป็นผีปอบ” ซึ่งแปลความหมายในภาษากลางว่า โจทก์เป็นผีกระสือ การที่จำเลยพูดใส่ความโจทก์ เป็นการที่จะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชังจากประชาชนทั่วไป ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖
ศาลชั้นต้นได้สอบพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าเรื่องผีปอบ ผีกระสือ เป็นคำแสลงหูระคายเคืองต่อความรู้สึกของผู้ถูกสบประมาท แต่ไม่ถึงกับทำให้เสียชื่อเสียง หรือทำให้คนทั้งหลายดูหมิ่นเกลียดชัง และเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลรู้ได้ว่าคนโดยมากไม่เชื่อหรือเป็นไปไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวเป็นถ้อยคำที่พูดว่าโจทก์ในสิ่งซึ่งไม่อาจเป็นไปได้ มิใช่เป็นเรื่องใส่ความอันจะมีความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์ฟ้องและขอให้ลงโทษและตามคำพยานโจทก์ได้ความต่อไปอีกว่า ยังนับถือโจทก์ และคนในบ้านเหล่า บ้านสูงเนินก็ยังคบหากับโจทก์ตามปกติ เวลามีงานบุญ โจทก์ก็ได้รับเชิญไปอยู่ หาทำให้โจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากคำพูดของจำเลยแต่อย่างใดไม่
พิพากษายืน