คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องกล่าวอ้างว่าผู้ถูกคัดค้านเป็นบุคคลต่างด้าว แต่ไม่มีหลักฐานทะเบียนบุคคลต่างด้าวประกอบคำร้อง เพียงแต่ได้ยินคนพูดกันว่าผู้ถูกคัดค้านเป็นบุตรคนต่างด้าวสัญชาติจีนเท่านั้น ยังไม่พอรับฟังว่าเป็นความจริงตามนั้นได้
ตามหลักฐานทะเบียนโรงเรียนปรากฏว่า ผู้ถูกคัดค้านเกิด พ.ศ. 2483 แต่หลักฐานในทะเบียนทหารกองเกินปรากฏว่าผู้ถูกคัดค้านเกิด พ.ศ. 2480 เมื่อผู้ปกครองของผู้ถูกคัดค้านซึ่งนำผู้ถูกคัดค้านไปฝากโรงเรียนยืนยันว่า ได้แจ้งลดอายุลง 3 ปี เพื่อไม่ให้ถูกปรับตามพระราชบัญญัติประถามศึกษา หลังจากลาออกจากโรงเรียนแล้ว ผู้ถูกคัดค้านจึงรู้วันเดือนปีเกิดที่แท้จริง คือวันที่ 21 ตุลาคม 2480 แต่นั้นมาก็ใช้วันเดือนปีเกิดที่แท้จริง เมื่อถึงกำหนดขึ้นทะเบียนทหารกองเกินก็ไปขึ้นทะเบียนทหารตามปกติ จึงไม่มีเหตุสงสัยว่าผู้ถูกคัดค้านเตรียมทำขึ้นไว้ก่อนแต่อย่างใด ฉะนั้น จึงถึงวันเดือนปีเกิดที่ปรากฏในโรงเรียนเป็นหลักฐานไม่ไม่

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมาใจความว่า เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ ได้มีการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผลการเลือกตั้งปรากฏว่านายสมพล เกยุราพันธุ์ เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งด้วยผู้หนึ่งในจำนวน ๙ คน แต่นายสมพล เกยุราพันธุ์ เป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง กล่าวคือมีบิดาเป็นคนต่างด้าว สัญชาติจีน และมิได้เป็นผู้สอบไล่ได้มัธยมปีที่ ๖ หรือมัธยมศึกษาปีที่ ๓ และอายุไม่ครบ ๓๐ ปีในวันเลือกตั้ง ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายสมพล เกยุราพันธุ์ ให้มีการเลือกตั้งใหม่แทน
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมายื่นคำให้การว่า นายสมพล เกยุราพันธุ์ มีบิดามารดาเป็นคนสัญชาติไทย สำเร็จชั้นประถมปีที่ ๔ มีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย
นายสมพล เกยุราพันธุ์ ยื่นคำร้องให้การว่า มีบิดาเป็นบุคคลสัญชาติไทย และเกิดวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๔๘๐ อายุครบ ๓๐ ปีในวันเลือกตั้ง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า ผู้ถูกคัดค้านเกิด พ.ศ. ๒๔๘๐ และคดีฟังไม่ได้ว่าบิดาของผู้ถูกคัดค้านเป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติจีน ควรยกคำร้อง จึงส่งสำนวนขึ้นมาเพื่อให้ศาลฎีกาวินิจฉัย
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาก็รับรองว่าบิดาของผู้ถูกคัดค้านเป็นบุคคลสัญชาติไทย แม้ผู้ร้องจะอ้างว่าบิดาถูกคัดค้านเป็นบุคคลสัญชาติจีน ก็ไม่มีเอกสารอะไรมาแสดงเลย ผู้ร้องเองก็ไม่ทราบว่าบิดาของผู้ถูกคัดค้านเป็นใคร เพียงแต่ได้ยินคนพูดกันว่าเป็นคนสัญชาติจีนเท่านั้น นับว่าการนำสืบของผู้ร้องยังเลื่อนลอยอยู่มาก ไม่พอจะฟังว่านายกิ้มบิดาของผู้ถูกคัดค้านเป็นบุคคลต่างด้าว
ส่วนอายุของผู้ถูกคัดค้านครบ ๓๐ ปี ในวันเลือกตั้งหรือไม่ ผู้ร้องอ้างเอกสารคือทะเบียนโรงเรียนนฤมิตรวิทยา และทะเบียนโรงเรียนศิริวิทยากรแสดงว่าอายุของผู้คัดค้านไม่ครบ ๓๐ ปีในวันเลือกตั้ง ส่วนผู้ถูกคัดค้านอ้างทะเบียน ในทะเบียนทหารกองเกินมาแสดงปรากฏว่าอายุเกิน ๓๐ ปี ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานเอกสารของผู้ถูกคัดค้านมีเหตุผลและน้ำหนักน่าเชื่อถือรับฟังเป็นหลักฐานได้ หลักฐานต่าง ๆ ได้เกิดมีกาก่อนการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีเหตุผลสงสัยที่จะคิดว่าผู้ถูกคัดค้านเตรียมทำไว้ก่อนแต่อย่างใด ฝ่ายผู้ร้องมีแต่ทะเบียนโรงเรียนเท่านั้น ซึ่งนางเรณูได้เบิกความหักล้างว่า ไม่เป็นความจริงตามนั้น ฉะนั้น จะถือวันเดือนปีเกิดที่ปรากฏในทะเบียนโรงเรียนเป็นหลักไม่ได้ จึงมีคำสั่งให้ยกฟ้องร้องเสีย

Share