แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อที่พิพาทเป็นที่สวนที่กฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 แล้ว แม้โจทก์ฟ้องคดีภายหลังที่จำเลยเข้าครอบครองเก็บผลประโยชน์เกิน 1 ปีแล้วก็ตาม ฟ้องโจทก์หาขาดอายุความไม่
พระราชบัญญัติเหมืองแร่ พ.ศ. 2461 มาตรา 51 ให้ผู้ถือประทานบัตรมีอำนาจทำเหมืองแร่ คือ ขุด ล้าง และจำหน่ายแร่ตามที่อนุญาตไว้ในประทานบัตรนั้นเท่านั้นประทานบัตรทำเหมือนแร่ไม่ได้ให้อำนาจแก่ผู้ถือประทานบัตรหวงห้ามหรือถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่แผ่นดินในเหมืองแร่นั้นเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินสวนผลอาสิน ๑ แปลง เดิมเป็นของนายแดง ต่อมานายแดงตาย โจทก์ได้รับมรดกและเข้าครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมากว่า ๑๐ ปีแล้ว จำเลยเข้าแย่งเก็บผลอาสินในสวนของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า เช่าที่พิพาทจากตัวแทนบริษัทเหมืองแร่ ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า บริษัทเหมืองแร่ไม่มีอำนาจเอาที่พิพาทไปให้บุคคลภายนอกเช่าทำการเพาะปลูกที่พิพาทเป็นที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ ๔๒ แม้จำเลยจะแย่งการครอบครองไปปีเศษ ก็หาได้สิทธิไม่ พิพากษาห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวกับที่พิพาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นที่สวนมาแต่ พ.ศ. ๒๔๗๐ ก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๔ เป็นที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ ๔๒ แม้โจทก์จะฟ้องคดีภายหลังที่จำเลยเข้าครอบครองเก็บผลประโยชน์เกิน ๑ ปีแล้ว ฟ้องหาขาดอายุความไม่ ส่วนพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ พ.ศ. ๒๔๖๑ มาตรา ๕๑ นั้น เพียงแต่บัญญัติให้ผู้ถือประทานบัตรมีอำนาจทำเหมืองแร่ คือ ขุด ล้าง และจำหน่ายแร่ตามที่อนุญาตไว้ในประทานบัตรนั้นเท่านั้น ประทานบัตรทำเหมืองแร่ไม่ได้ให้อำนาจแก่ผู้ถือประทานบัตรหวงห้ามหรือถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่แผ่นดินในเหมืองแร่นั้นเลย
พิพากษายืน.