แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับฎีกาของจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงไม่รับคำร้อง
จำเลยว่า จำเลยเพิ่งทราบคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2528 เพราะเจ้าหน้าที่ศาลเพิ่งหาสำนวนพบและแจ้งให้ทนายจำเลยทราบดังกล่าว ดังนั้น การที่จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งในวันที่28 พฤศจิกายน 2528 จึงชอบที่จะยื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 โปรดมีคำสั่งให้รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ฯลฯ ให้จำคุก 5 ปี ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2528 ศาลชั้นต้นสั่งในวันเดียวกันนั้นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับฎีกาจำเลย (อันดับ 116)
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2528
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 120)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 121)
คำสั่ง
จำเลยยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2528 โดยมีข้อความในท้ายฎีกาแจ้งชัดว่ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้วศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยในวันเดียวกันนั้นเองต้องถือว่าจำเลยทราบคำสั่งไม่รับฎีกาในวันที่ 17 กันยายน 2528 แล้วจำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2528เป็นเวลาเกินกำหนด 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 ศาลชั้นต้นไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้องลงวันที่ 3 ธันวาคม 2528ของจำเลยเสีย