แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ฎีกาคำสั่งของจำเลยมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 86)
สืบเนื่องมาจากโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยยอมชำระหนี้จำนวน 71,875 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 50,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้โจทก์เสร็จสิ้น โดยแบ่งชำระเป็นงวด ๆ หากผิดนัดยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันทีโดยยอมให้ยึดทรัพย์จำนองคือที่ดิน น.ส.3 ก เลขที่ 548 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้วจังหวัดนครราชสีมา พร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์จนครบ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดีให้เป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ต่อมาจำเลยผิดนัด โจทก์จึงบังคับคดี จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการยึดและงดการขายทอดตลาดทรัพย์
ศาลชั้นต้นสั่งว่า การชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลได้พิพากษาตามยอม เป็นการชำระหนี้ที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยเคร่งครัด หากจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ แต่โจทก์ยังไม่ดำเนินการบังคับคดีก็เป็นสิทธิของโจทก์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจำเลยจะมีสิทธิไม่ต้องปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมให้ เป็นเรื่องที่จำเลยต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัดเมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดให้ถูกต้อง โจทก์ย่อมขอให้บังคับคดียึดทรัพย์ออกขายทอดตลาดได้ ไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการยึดและงดการขายทอดตลาด ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 78,80)
จำเลยได้รับการคุ้มครองประโยชน์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 โดยศาลเห็นสมควรให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทระหว่างอุทธรณ์ (อันดับ 68)
คำสั่ง
คำร้อง ของจำเลยพอแปลได้ว่า จำเลยขอคุ้มครองประโยชน์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 พิเคราะห์แล้วเห็นสมควรให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทระหว่างฎีกา