แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสามขอให้ศาลสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91,341,343 ฯลฯ พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528มาตรา 30,82 เรียงกระทงลงโทษ ฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 4 ปี ฐานฉ้อโกงประชาชน ปรับคนละ 10,000 บาท จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพก่อนสืบพยานโจทก์ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยคนละ 2 ปีปรับคนละ 5,000 บาท ฯลฯ โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้คนละ 3 ปีแต่ให้คุมประพฤติจำเลย ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตคนละ 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน เมื่อรวมกับโทษฐานฉ้อโกงประชาชนที่ศาลชั้นต้นกำหนด เป็นจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน ปรับคนละ5,000 บาท ไม่รอการลงโทษและไม่คุมประพฤติจำเลยทั้งสามนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสามฎีกา (อันดับ 53)
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบ(อันดับ 49,48)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยทั้งสามชั่วคราว โดยตีราคาประกันคนละ 150,000 บาท (อันดับ 3)
คำสั่ง
อนุญาตให้ปล่อยจำเลยทั้งสามชั่วคราวในระหว่างฎีกา ตีราคาค่าประกันคนละสองแสนบาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันและหลักประกันเพิ่มแล้วดำเนินการต่อไป