คำสั่งคำร้องที่ 643/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย แต่เป็นฎีกาที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของโจทก์ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพราะในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่มีบทบัญญัติมาตราใดให้อำนาจศาลที่จะมีคำสั่งไม่รับฎีกา โดยอ้างเหตุว่าเป็นฎีกาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี อีกทั้งกรณีก็ไม่อาจที่จะนำบทบัญญัติมาตรา 225 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลมได้เนื่องจากในทางอาญาศาลต้องตีความโดยเคร่งครัดโจทก์จึงไม่เห็นพ้องด้วยกับคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์เพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 37 แผ่นที่ 2 และแผ่นที่ 5)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 323,86
ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องของโจทก์แล้ว เห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดไต่สวนและมีคำสั่งให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 32)
ทนายโจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 33)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลจะยกฟ้องโจทก์ได้ต่อเมื่อได้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาแล้วจะพิเคราะห์คำฟ้องโจทก์แล้วงดไต่สวนมูลฟ้อง พิพากษายกฟ้องไม่ได้และศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการต่อสู้คดีเพื่อป้องกันสิทธิของตนเอง เพราะจำเลยไม่มีสิทธิที่จะกระทำได้ ศาลชอบที่จะไต่สวนมูลฟ้องก่อนนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share