คำสั่งคำร้องที่ 313/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของผู้ร้องเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่อ้างล้วนแต่เป็นข้อกฎหมายที่ว่าด้วยดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ไม่รับอุทธรณ์
ผู้ร้องเห็นว่า อุทธรณ์ของผู้ร้องหาเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ แต่เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่า ผู้ร้องได้นำสืบพยานหลักฐานรับฟังเป็นที่ยุติแล้วว่า ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้อง โดยโจทก์ไม่สามารถนำสืบพยานหลักฐานหักล้างพยานหลักฐานของผู้ร้องได้ การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการวินิจฉัยพยานหลักฐานโดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนขัดต่อข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบในสำนวน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย โปรดรับอุทธรณ์ของผู้ร้อง
หมายเหตุ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้าน (อันดับ 44)
กรณีเป็นชั้นบังคับคดี
สืบเนื่องจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดปั๊มน้ำบาดาลพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 25 แรง ยี่ห้อ MARELLI(ปั๊มนอน)1 ชุด และปั๊มน้ำบาดาลพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 15 แรง ยี่ห้อ WARNING(ปั๊มตั้ง)1 ชุด ราคาประมาณ 5,000 บาท โดยอ้างว่า เป็นทรัพย์สินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานกลางว่าทรัพย์สินที่โจทก์นำยึดดังกล่าวไม่ใช่ของจำเลย แต่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องซึ่งผู้ร้องให้จำเลยเช่าเพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการของจำเลย ขอให้ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งปล่อยทรัพย์สินดังกล่าว
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้องขัดทรัพย์
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว(อันดับ 39)
ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 40)
ต่อมาผู้ร้องขอแก้ไขคำร้องศาลแรงงานกลางอนุญาต (อันดับ 45)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าทรัพย์พิพาทที่โจทก์นำยึดยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยอยู่ ไม่ใช่ทรัพย์ของผู้ร้องข้อที่ผู้ร้องอุทธรณ์ประการแรกเป็นใจความว่าศาลแรงงานกลางรับฟังแต่เอกสารหมาย จ.2 ไม่รับฟังเอกสารหมาย ร.1 ของผู้ร้องประกอบการพิจารณาด้วยจึงคลาดเคลื่อนต่อข้อกฎหมาย อุทธรณ์ประการที่สองเป็นใจความว่า เอกสารที่ผู้ร้องอ้างส่งศาลเป็นเอกสารที่รับฟังได้ตามกฎหมายและเกิดขึ้นจริง จึงรับฟังได้โดยปราศจากสงสัย และอุทธรณ์ประการที่สามเป็นใจความว่าผู้ร้องมีทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคลยืนยันว่าจำเลยเช่าทรัพย์พิพาทจากผู้ร้อง อุทธรณ์ของผู้ร้องดังกล่าวจึงเป็นเรื่องโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ว่าทรัพย์พิพาทที่โจทก์นำยึดเป็นทรัพย์ของผู้ร้อง ไม่ใช่ทรัพย์ของจำเลย แต่เสี่ยงกล่าวให้เป็นปัญหาข้อกฎหมายขึ้นเท่านั้น จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share