แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์โจทก์เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ มีคำสั่งไม่รับเป็นอุทธรณ์โจทก์
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์มิได้เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแต่เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่ายังฟังไม่ได้ชัดว่า สุราขาดจำนวนไปในระหว่างที่จำเลยที่ 1 หรือจำเลยที่ 3 เป็นหัวหน้าหน่วยขาย จำเลยทั้งสามจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ นั้น เป็นการรับฟังข้อเท็จจริงที่ขัดกับพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งศาลแรงงานรับฟังแล้วว่า จำเลยที่ 1 ได้ส่งมอบสุราที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนให้แก่จำเลยที่ 3 รับไปเรียบร้อยแล้วโดยสมุห์บัญชีและพนักงานบัญชีของโจทก์ได้ไปตรวจรับและรับมอบสุราคงเหลือที่มีอยู่ถูกต้องตามเอกสารหมาย จ.3 แล้ว และสุราหายไปหลังการรับมอบ 14 วัน ศาลแรงงานกลางยังมิได้วินิจฉัยประเด็นสำคัญที่ว่า ตามสัญญาจ้างแรงงานระหว่างโจทก์และจำเลย หัวหน้าหน่วยขายจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในสุราที่สูญหายไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆคำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางจึงเป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1) ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 31 โปรดรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยที่ 1 ที่ 2 และทนายจำเลยที่ 3 ต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้วโดยทางไปรษณีย์ตอบรับ (อันดับ 76)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวน 158,701.73 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว(อันดับ 73)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 75)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าสุราของโจทก์ไม่ได้ขาดจำนวนไปในระหว่างที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลยที่ 3จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าสุราของโจทก์ขาดหายไปในระหว่างที่จำเลยที่ 3 ดูแลรับผิดชอบ จำเลยที่ 3จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาจ้างแรงงานนั้นเป็นอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง อันเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ ชอบแล้ว ยกคำร้อง