คำสั่งคำร้องที่ 1508/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกา ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วม
โจทก์ร่วมเห็นว่า คดีนี้มีเพียงข้อเท็จจริงเป็นสาระสำคัญเพียงประเด็นเดียวเท่านั้น ไม่มีประเด็นอื่นที่จะให้ศาลวินิจฉัยอีกได้ อีกทั้งเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง การกระทำของจำเลยเป็นการอุกอาจกระเทือนขวัญต่อข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตและต่อประชาชนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง จึงมีเหตุสมควรที่ศาลสูงจะได้วินิจฉัยและพิพากษาต่อไปโจทก์ร่วมจึงไม่เห็นพ้องด้วยกับคำสั่งที่ไม่รับฎีกาโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสามได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 265)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,289,80,83
ระหว่างพิจารณา นางเปี่ยมวิเชียรรัตน์ ผู้เสียหาย ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 259)
โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 261)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของโจทก์ร่วมล้วนแต่เป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง ไม่มีปัญหาข้อกฎหมายเลย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกา ชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share