แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า รับเป็นฎีกาเฉพาะฎีกาข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ นอกนั้นเป็นฎีกาข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ต้องห้ามฎีกา
จำเลยที่ 2 เห็นว่า คดีนี้ปรากฏตามบัญชีกระแสรายวันเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2526 มียอดเงินต้น 62,425.38 บาท ถือว่าทุนทรัพย์เกินกว่า 50,000 บาท แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายืนก็ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248โปรดสั่งให้รับฎีกาข้อเท็จจริงของจำเลยที่ 2 ด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 104)
ก่อนจำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การ โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 49,526.71 บาทพร้อมดอกเบี้ยทบต้นในอัตราร้อยละ 19 ต่อปี นับแต่วันที่26 สิงหาคม 2525 จนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2526 และดอกเบี้ยธรรมดาอัตราร้อยละ 19 ต่อปี ในต้นเงินจำนวน 49,526.71 บาทซึ่งรวมดอกเบี้ยทบต้นเข้าด้วยแล้ว นับแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2526จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ดอกเบี้ยทบต้นนับแต่วันที่1 กุมภาพันธ์ 2526 ถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2526 และดอกเบี้ยธรรมดานับแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2526 จนกว่าจะชำระเสร็จ ที่ให้จำเลยที่ 2 ชำระให้โจทก์ให้คิดในอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 95)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 98)
คำสั่ง
คดีนี้ ทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องในศาลชั้นต้นมีจำนวนเกินกว่าห้าหมื่นบาท จำเลยที่ 2 จึงมีสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ในปัญหาข้อเท็จจริงไว้ดำเนินการต่อไป