แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ โจทก์จำเลยตกลงกันได้แล้ว โดยจำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 30,000 บาท ส่วนที่เหลือจำเลยจะชำระให้โจทก์ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2530 โจทก์จึงขอถอนฟ้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยแถลงไม่คัดค้าน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว คดีมีมูล มีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุก 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลฎีกาทำคำสั่งคำร้องเสร็จและส่งไปศาลชั้นต้นเพื่ออ่านแล้วในวันนัดฟังคำสั่งศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลชั้นต้น โดยทนายโจทก์เป็นผู้ลงชื่อในคำร้อง ศาลชั้นต้นสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาว่าให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง และคืนคำสั่งคำร้องศาลฎีกา และต่อมาศาลชั้นต้นได้ส่งคำร้องและคำสั่งคำร้องมายังศาลฎีกาโดยที่ศาลชั้นต้นยังมิได้อ่านคำสั่งดังกล่าว
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ คดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวเมื่อโจทก์ได้รับอนุญาตให้ถอนฟ้องแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา