แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลย 700 บาท และให้ริบ ของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะของกลางเป็นไม่ริบ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 29 ทวิ, 71 ทวิ, 74,74 ทวิ, 74 จัตวา ฯลฯ ปรับคนละ 1,400 บาท จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับคนละ 700 บาทริบของกลาง จ่ายสินบนนำจับกึ่งค่าปรับ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนรถยนต์ของกลางแก่จำเลยที่ 1 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับฎีกา โจทก์ฎีกาคำสั่งศาลชั้นต้นว่า จำเลยอุทธรณ์เฉพาะเรื่องที่ศาลชั้นต้นพิพากษาริบรถยนต์ของกลาง ส่วนโทษปรับ จำเลยมิได้อุทธรณ์ โทษในส่วนนี้จึงระงับไป ไม่ใช่กรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 และการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาดังกล่าวเป็นการแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 218 อีกเช่นกัน ฎีกาของโจทก์จึงไม่ต้องห้าม
ศาลฎีกาคำสั่งว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยคนละ 700 บาท และให้ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะของกลางเป็นไม่ริบ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 โจทก์ฎีกาว่า ให้ริบของกลาง เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ยกคำร้อง”