คำสั่งคำร้องที่ 196/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว ฟังว่าที่ดินของโจทก์ที่อยู่ในซอยร่วมศิริมิตรมีมากกว่า 10 แปลง แต่ค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกากับเงินวางศาลซึ่งเป็นค่าทนายความจำเลยเป็นเงินเพียง 10,000 บาทเศษโจทก์ยังมีทรัพย์สินพอเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ โจทก์มิได้ยากจนจริงมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์เสีย และให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 30 วัน ฯลฯ
โจทก์เห็นว่า คดีนี้ โจทก์มิได้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาแต่ต้นโจทก์เพิ่งขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกา กรณีตกเป็นคนยากจนในภายหลัง ศาลต้องพิจารณาฐานะในทางทรัพย์สินของโจทก์จากเหตุในขณะยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา แต่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยฐานะทางทรัพย์สินของโจทก์จากเหตุในขณะที่โจทก์ยังมิได้ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา จึงไม่อาจรับฟังเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานะในปัจจุบันได้ และโจทก์ได้นำสืบชัดแจ้งแล้วว่าเหตุที่โจทก์เป็นคนยากจนก็เพราะกรมสรรพากรได้อายัดทรัพย์สินทั้งหมดของโจทก์ไว้ตามเอกสาร ร.2 โจทก์ย่อมไม่อาจประกอบธุรกิจมีเงินได้มาใช้จ่ายในการฟ้องต่อสู้คดีได้ และที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าที่ดินของโจทก์ที่อยู่ในซอยร่วมศิริมิตร มีมากกว่า 10 แปลง แต่ค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกากับเงินวางศาลซึ่งเป็นค่าทนายความจำเลยเป็นเงินเพียง10,000 บาทเศษ โจทก์ยังมีทรัพย์สินพอเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ นั้นโจทก์ขอเรียนว่า ในขณะนี้ที่ดินดังกล่าวทั้งหมดของโจทก์ได้ถูกกรมสรรพากรอายัดไว้ทั้งหมด ไม่สามารถดำเนินและประกอบธุรกิจให้มีเงินได้มาใช้จ่ายเป็นค่าฤชาธรรมเนียมศาลได้ อาศัยเหตุดังกล่าวโปรดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลชั้นต้น และมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 แถลงคัดค้าน (อันดับ 104)
โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้อง ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้เสียค่าอากรและค่าเพิ่มอากรตามเอกสารท้ายฟ้องหมาย 2 ของจำเลยที่ 1 และเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ตามเอกสารท้ายฟ้องหมาย 4 เสียทั้งสิ้น ให้จำเลยที่ 1 ส่งมอบบรรดาเอกสารตามที่ระบุอยู่ในเอกสารท้ายฟ้องหมาย 2 ให้แก่โจทก์ และให้โจทก์รับผิดเฉพาะค่าอากรตามประมวลรัษฎากรในเอกสารที่สมบูรณ์เป็นตราสารตามกฎหมายเท่านั้น ให้จำเลยที่ 1 รับเงินค่าอากรเฉพาะส่วนที่จะต้องเสียตามกฎหมายและให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 งดค่าเพิ่มอากรที่กำหนดไว้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 114,115 เสียทั้งสิ้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 88,87,101)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 102)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าตามทางไต่สวน ข้อเท็จจริงคงปรากฏแต่เพียงว่าโจทก์มีที่ดินมากกว่า 10 แปลง และถูกจำเลยที่ 1 อายัดไว้ทุกแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ไม่ปรากฏว่าโจทก์ไม่มีทรัพย์สินอื่นอีกจึงยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นคนยากจนถึงกับไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกา ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ฎีกาอย่างคนอนาถานั้นชอบแล้ว ให้ยกอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์หากโจทก์ยังติดใจฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็ให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งนี้

Share