แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลฎีกาจะกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ได้ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 108 แผ่นที่ 2)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนหย่าขาดกับโจทก์หากจำเลยไม่ไปทำการจดทะเบียนหย่า ขอให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย ให้บุตรทั้งสองคนอยู่ในความปกครองของโจทก์ให้จำเลยส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรให้แก่โจทก์จนกว่าบุตรจะบรรลุนิติภาวะทุกคน เป็นเงินเดือนละ 4,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป ให้จำเลยเสียค่าเลี้ยงชีพให้แก่โจทก์เป็นเงินเดือนละ3,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป และให้จำเลยเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินค่าเลี้ยงดูบุตรและค่าเลี้ยงชีพโจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จ
จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนหย่ากับโจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยให้โจทก์แบ่งรถยนต์ยี่ห้อฮิลล์แมนฮันเตอร์แก่จำเลยตามฟ้องแย้งหากแบ่งไม่ได้ให้ขายโดยประมูลราคาระหว่างกันเอง หรือนำออกขายทอดตลาดนำเงินสุทธิมาแบ่งแก่โจทก์กึ่งหนึ่ง ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้แบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 3064ตำบลบางจากใต้ อำเภอภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร และชุดรับแขกให้จำเลยครึ่งหนึ่ง หากแบ่งไม่ได้ให้ประมูลราคาในระหว่างกันเองหรือขายทอดตลาดนำเงินสุทธิแบ่งครึ่งกัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยต่างฎีกา เฉพาะโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 101,105,102)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา