คำสั่งคำร้องที่ 14/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วได้ความว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ประกอบกิจการค้าที่ดิน โจทก์ค้างชำระภาษีอากรจึงถูกกรมสรรพากรมีคำสั่งอายัดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด และข้อเท็จจริงตามท้องสำนวนได้ความว่า โจทก์มีทุนจดทะเบียน10,000,000 บาทตามเอกสาร ร.1 โจทก์ทำสัญญาจะขายที่ดินโฉนดเลขที่ 1064 ตำบลบางซื่อฝั่งเหนือ อำเภอบางซื่อ กรุงเทพมหานครพร้อมสิ่งปลูกสร้างตึกแถว 4 ห้อง เลขที่ 1032/146-149 แขวงลาดยาวเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ให้กับบริษัทอิทธิชัย จำกัดในราคา 4,000,000 บาท ผู้จะซื้อชำระในวันทำสัญญา เมื่อวันที่14 มีนาคม 2523 จำนวน 500,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 3,500,000 บาทผู้จะซื้อจะชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 8 ปีตามเอกสาร ล.8 และโจทก์ยังก่อสร้างอาคารประมาณ 134 คูหา เพื่อจำหน่ายแต่ยังจำหน่ายไม่หมด ตามเอกสาร ล.5 จึงแสดงว่าโจทก์ยังมีทรัพย์สินอยู่เป็นจำนวนมากแม้โจทก์จะค้างชำระค่าภาษีต่อกรมสรรพากรแต่ก็ไม่ปรากฏจำนวนหนี้ที่แท้จริงว่ามากกว่าหลักทรัพย์ที่ถูกอายัดหรือไม่ทั้งสินทรัพย์ของบริษัทจะต้องแสดงไว้ในบัญชีงบดุล โจทก์ก็มิได้นำมาแสดงต่อศาลเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าทุนจดทะเบียนของโจทก์จำนวน 10,000,000 บาทนั้น มีเหลืออยู่เท่าใด และไม่ปรากฏจากข้อนำสืบของโจทก์ว่า บริษัทโจทก์ประกอบกิจการขาดทุน ทั้งค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาก็เป็นจำนวนเงินเพียงเรือนหมื่นเท่านั้น ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า โจทก์เป็นบุคคลยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาได้ มีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ และกำหนดให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาชำระต่อศาลภายใน 15 วัน
โจทก์เห็นว่า โจทก์ตกเป็นคนยากจนลงภายหลัง และโจทก์ได้นำสืบเหตุผลแจ้งชัดแล้วว่า เหตุที่โจทก์ตกเป็นคนยากจนก็เพราะกรมสรรพากรได้ยึดและอายัดทรัพย์สินของโจทก์ทั้งหมดไว้ โจทก์ย่อมไม่อาจประกอบธุรกิจมีเงินได้มาใช้จ่ายในการฟ้องต่อสู้คดีนี้ได้ที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยฐานะทางทรัพย์สินของโจทก์เอาจากเหตุในขณะที่โจทก์ยังมิได้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา จึงเห็นได้ชัดว่า เหตุดังกล่าวในอดีตเหล่านั้น ไม่อาจรับฟังเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานะความยากจนในปัจจุบันได้โปรดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลชั้นต้นและรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 67 แผ่นที่ 5)
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินภาษี ตามเอกสารท้ายฟ้องหมาย 2 ถึง 4 ของจำเลยที่ 1 เสียทั้งสิ้น หากจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของจำเลยที่ 2 ตามเอกสารท้ายฟ้องหมาย 5เสียทั้งสิ้น หากจำเลยที่ 2 ไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนา และห้ามจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 เรียกเก็บค่าภาษีโรงเรือนสำหรับตึกแถว 5 ชั้น เลขที่ 1032/146-149ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตบางเขน จากโจทก์ ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าว (อันดับ 57,56,65)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 66)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ตามทางไต่สวนข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นบุคคลยากจนถึงกับไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถาชอบแล้วให้ยกคำร้องฎีกาคำสั่งของโจทก์ หากโจทก์ยังติดใจฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็ให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 10 วันนับแต่วันทราบคำสั่งนี้

Share